EnglishDigital Marketing
รับทำ SEO
ทีมงานมืออาชีบริษัทรับทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์ ให้คีย์เวิร์ดติดอันดับ Google อย่างมั่นคงและมีคุณภาพทั้ง On-page, Off-page, และ Backlink
การทำ SEO คืออะไร
SEO คืออะไร? เปรียบเสมือนกุญแจลับที่ช่วยไขประตูสู่โลกออนไลน์ กุญแจดอกนี้จะปลดล็อกโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของ Google และ Bing ดึงดูดผู้เข้าชมเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึง กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมของ Search Engine อย่าง Google และ Bing เป้าหมายหลักคือเพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา (SERP) โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา
SEO เปรียบเสมือนการเดินทาง: ต้องอาศัยเวลา ความอดทน และกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ผลลัพธ์ที่ได้คือเว็บไซต์ที่ติดอันดับบนหน้าแรกของ Search Engine ดึงดูดผู้เข้าชมเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำ SEO
ผลลัพธ์การทำ SEO จากธุรกิจแต่ละประเภท
B2B Business
A8DIGITAL เคยผ่านประสบการณ์ในการยกระดับเว็บไซต์ B2B หลากหลายประเภท ผลลัพธ์ที่ได้คือ เว็บไซต์มีอันดับการค้นหาบน Google ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
การทำ SEO ดีกับธุรกิจด้านไหนบ้าง
คำตอบคือ ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจแบบ B2B หรือ B2C ล้วนสามารถใช้ประโยชน์จาก SEO เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับ SEO
- ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E-commerce)
- ธุรกิจให้บริการ (Service)
- ธุรกิจท่องเที่ยว (Travel)
- ธุรกิจอาหาร (Restaurant)
- ธุรกิจแฟชั่น (Fashion)
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)
- ธุรกิจการศึกษา (Education)
- ธุรกิจสุขภาพ (Healthcare)
ใหญ่จะทำการค้นหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งโดยปกติจะเป็นการหาข้อมูลผ่านทาง
Search engine หรือ Google นั่นเองครับ
ดังนั้นการทำ SEO ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถติด
หน้าแรกของ Google ได้ ช่วยให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มจำนวน
คนเข้าเว็บไซต์ในระยะยาวด้วยครับ
หลักการทำ SEO มีอะไรบ้าง
หากคุณสนใจและพร้อมที่จะเริ่มต้นทำ SEO คุณจะต้องเข้าในหลักการและ Strategy ในการ
ทำ SEO ก่อนครับ
โดยปกติ SEO ที่ทำกันส่วนใหญ่จะมีวิธีหลัก ๆ ได้แก่
1. เข้าใจผู้ใช้งาน (Expertise)
ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจผู้ใช้งานของคุณ ถามตัวเองว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร พวกเขาค้นหาอะไรบนโลกออนไลน์ พวกเขาใช้คำค้นหาอะไร พวกเขามีความต้องการและปัญหาอะไร
เมื่อคุณเข้าใจผู้ใช้งาน คุณจะสามารถสร้างเนื้อหาที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ เนื้อหาที่ดีจะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานและทำให้พวกเขาอยู่บนเว็บไซต์ของคุณนานขึ้น
2. เนื้อหาคุณภาพ (Expertise)
หัวใจสำคัญของ SEO คือเนื้อหา เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณควรมีคุณภาพดี ตรงประเด็น อ่านง่าย น่าสนใจ และมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้งาน
3. โครงสร้างเว็บไซต์ (Authority)
โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีช่วยให้ Search Engine เข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น โครงสร้างที่ชัดเจนจะช่วยให้ Search Engine ค้นหาและจัดทำดัชนีเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness)
Search Engine ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เว็บไซต์ของคุณควรมี Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ มีการอัปเดตเนื้อหาอยู่เสมอ และมีความปลอดภัย
การทำ SEO ต่างจาก Google Ads อย่างไร
หลายคนยังสับสนระหว่าง SEM กับ SEO ทั้งสองเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ของคุณ แต่มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน
SEM (Search Engine Marketing) เปรียบเสมือนการจองคิว VIP ขึ้นหน้าแรก Google ทันที โดยจ่ายเงินเพื่อลงโฆษณา (Pay-per-click) เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา คุณจะถูกเรียกเก็บเงิน เหมาะกับการโปรโมทสินค้าหรือบริการที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว
SEO (Search Engine Optimization) เปรียบเสมือนการพัฒนาศักยภาพของเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าค้นหา Google โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงกับอัลกอริทึมของ Google
บริการ รับทำ SEO รายเดือนของ A8digital
จริงอยู่ว่า การทำ SEO อาจจะดูเหมือนง่ายเมื่อมองแค่หลักการพื้นฐานอย่าง
- On-page SEO เน้นไปที่การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search Engine
- Off-page SEO เน้นไปที่การสร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่น ๆ
แต่ในความเป็นจริง การทำ SEO นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ SEO นั้นยากกว่าที่คิด มีดังนี้
- การอัปเดตอัลกอริทึมของ Search Engine อยู่เสมอ Google อัปเดตอัลกอริทึมอยู่เสมอ หมายความว่าเทคนิค SEO ที่เคยได้ผลอาจจะไม่ได้ผลอีกต่อไป
- ความแข่งขันที่สูง เว็บไซต์มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน การจะติดอันดับบนหน้าแรกของ Google จึงยากขึ้น
- ความหลากหลายของประเภทเว็บไซต์ เทคนิค SEO ที่ใช้กับเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง อาจจะไม่ได้ผลกับเว็บไซต์อีกประเภทหนึ่ง
- ความรู้และทักษะที่จำเป็น การทำ SEO นั้นต้องการความรู้และทักษะหลากหลาย
ดังนั้น การให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแล SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ จึงมีข้อดีหลายประการ
- ประหยัดเวลา ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์และความรู้ จึงสามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก
- ได้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้เชี่ยวชาญสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม และเลือกเทคนิค SEO ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ
- ความคุ้มค่า การจ้างผู้เชี่ยวชาญ อาจจะดูมีค่าใช้จ่าย แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่า
