ทำความรู้จัก 7 Google Algorithms ที่สาย SEO ควรรู้ว่ามีอะไรบ้าง ฉบับรวบรัด

เพิ่งประกาศอัพเดท SEO Google Algorithm ไปเมื่อเร็วๆ นี้ (กันยายน 2022 ) สำหรับ Google ที่คอยพัฒนาระบบวิเคราะห์ หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ อัลกอริทึม (Algorithms) ซึ่งก็คือหลักการประเมินการจัดอันดับเว็บไซต์ ว่าจะทำการจัดอันดับเว็บไหนขึ้นมาแสดงผล เพื่อให้การแสดงผลนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้นหามากที่สุด ดังนั้นคนที่ทำ SEO ทั้งหลาย จึงควรเรียนรู้ และคอยอัพเดท SEO Google Algorithm กันอยู่เสมอ เพราะระบบที่ใช้คิด และวิเคราะห์ของ Google นั้นคอยเปลี่ยนไปตลอดเวลา นั่นก็เพื่อการคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุด มาแสดงผลในมุมของ Users ให้ดีที่สุด และเลือกบทความที่มีคุณภาพดีนั่นเอง 

แม้ว่า SEO Google Algorithm จะมีการอัพเดทอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่หัวใจหลักของ SEO Google Algorithm ก็มีอัลกอริทึมที่เป็นหัวใจหลักในการเลือกแสดงผลตัวสำคัญๆ ที่เราอยากให้ทุกคนรู้ ยิ่งใครที่ทำ SEO ด้วยแล้วนั้น การศึกษา SEO Google Algorithm นั้นถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญเป็นอย่างมาก มาเริ่มกันเลยดีกว่า 

 

7 SEO Google Algorithm ที่ควรรู้ 

  • Panda 

เป็น SEO Google Algorithm ที่น่าสนใจที่ถึงแม้จะเปิดตัวมานานแล้ว ตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2011 แต่ถือว่าเป็นอัลกอริทึ่มที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะใช้สำหรับคัดกรองเนื้อหา ที่คัดเนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำออกไป เช่นเดียวกับเนื้อหาที่มีความซ้ำกัน (Duplicate) สำหรับเว็บที่คัดลอกเนื้อหามา หรือมีคุณภาพต่ำจะถูกตัดออกไป และถูกจัดอันดับให้ลดลง ส่วนบทความที่เป็นเจ้าของเนื้อหาก็จะถูกดันอันดับให้สูงขึ้น 

จุดเด่น: คัดกรองเนื้อหาเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือซ้ำกันออกไป ช่วยทำให้เนื้อหาที่แสดงผลบนหน้า Google มีคุณภาพที่ดีขึ้น เป็น SEO Google Algorithm ที่ไม่ควรมองข้าม 

สิ่งที่ควรทำ: หลีกเลี่ยงการทำบทความที่ซ้ำกัน ไม่คัดลอกบทความจากผู้อื่น และไม่ทำบทความให้เป็นแสปม 

 

  • Penguin

อาจจะคุ้นหูกันมาบ้างสำหรับ SEO Google Algorithm ที่ชื่อว่าเพนกวิน (Penguin) เป็นอีกหนึ่งอัลกอริทึ่มสำคัญที่อยากให้ได้รู้จักกัน เป็นสิ่งที่ช่วยตรวจสอบลิ้งค์ของเว็บไซต์ของคุณเองกับลิ้งค์ภายนอก หรือที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าแบล็กลิ้งค์ (Backlinks) จะมีการตรวจจับว่าลิ้งค์ภายนอกที่ส่งกลับมายังเว็บไซต์ของคุณนั้นเป็นธรรมชาติไหม ถ้าหากว่าไม่ ก็ถือว่าเป็นการแสปม ดังนั้นการส่งลิ้งค์กลับเข้ามาที่เว็บไซต์จะต้องมีคุณภาพ และมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 

จุดเด่น: ตรวจสอบความเชื่อมโยงของลิ้งค์ที่มาจากภายนอกเว็บไซต์ ที่ลิ้งค์กลับเข้ามาหาเว็บไซต์ของคุณ

สิ่งที่ควรทำ: ลิ้งค์ที่ได้ต้องมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ และต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน 

 

  • Pigeon

เป็นการแสดงผลการค้นหาที่เน้นท้องถิ่นเป็นหลัก SEO Google Algorithm Pigeon นั้นจะช่วยให้การเสิร์ชของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยการยึดตำแหน่งของที่ตั้งเป็นหลัก อย่างเช่น เวลาที่เสิร์ชหาร้านอาหาร Google ก็จะแสดงผลรายชื่อร้านอาหารที่อยู่ใกล้คุณ ดังนั้นการระบุทั้งตั้ง หรือตำแหน่ง ก็จะช่วยให้การค้นหาธุรกิจของคุณแสดงผลขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ 

จุดเด่น: การแสดงผลที่ระบุจากที่ตั้ง และการแสดงผลท้องถิ่น 

สิ่งที่ควรทำ: ตั้งค่า Google My Business ให้ถูกต้อง และระบุที่อยู่ ปักหมุดให้ชัดเจน

 

  • Mobile Friendly Update

ในยุคปัจจุบันนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้โทรศัพท์มือถือนั้นสำคัญแค่ไหน ดังนั้น SEO Google Algorithm นี้จึงทำออกมาเพื่อตอบโจทย์การค้นหาโดยใช้มือถือให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดย Mobile Friendly Update ได้ถูกทำออกมาตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณใช้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดีแค่ไหน ถ้าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับการดูด้วยมือถือมากเท่าไหร่ อันดับบนเว็บไซต์ก็จะยิ่งดีขึ้น 

จุดเด่น: พัฒนามาสำหรับการใช้งานในมือถือมากยิ่งขึ้น 

สิ่งที่ควรทำ: ปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งานในมือถือ เพื่อตอบโจทย์ SEO Google Algorithm Mobile Friendly Update

 

  • Hummingbird

สำหรับอัลกอริทึ่ม SEO Google Algorithm อีกอย่างหนึ่งที่อยากให้รู้ไว้สำหรับคนที่ทำ SEO ก็คือ Hummingbird ที่จะช่วยให้เข้าใจคำค้นหาในคีย์เวิร์ดยาวๆ ได้มากขึ้น ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการทำคอนเทนต์ล้วนๆ เลย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ให้การเสิร์ชหาคำเป็นไปอย่างง่ายดาย และ Google จะเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการเสิร์ชได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนั้นเวลาที่ค้นหา Google จะไม่ได้แสดงโชว์แค่บทความเสมอไป แต่รวมถึงการดึงเอารูปภาพ และวิดิโอขึ้นมาด้วย 

จุดเด่น: ช่วยทำให้คำที่ค้นหาแสดงผลได้อย่างง่ายดาย และเข้าใจสิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหาได้ดีขึ้น 

สิ่งที่ควรทำ: เสิร์ชหาคำหลักที่ครอบคลุมในสิ่งที่ต้องการค้นหา 

 

  • Pirate

เมื่อใดก็ตามที่คุณนำเอาลิขสิทธิ์ของคนอื่นมาใส่ในเว็บไซต์ของคุณ SEO Google Algorithm Pirate จะทำงานโดยทันที เพราะอัลกอริทึ่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบ และให้ความสำคัญเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในเนื้อหา ดังนั้นหากใครที่นำเอาลิขสิทธิ์มาใช้ ต้องระวังหน่อย เพราะอาจจะถูก Google ลดลำดับความสำคัญลง 

จุดเด่น: ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหลาย 

สิ่งที่ควรทำ: หลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น

 

  • RankBrain

การใช้ระบบ AI มาช่วยถือว่าเป็นสิ่งที่กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในปัจจุบัน ซึ่ง SEO Google Algorithm ที่มีชื่อว่า RankBrain ก็เป็นการที่ Google นำเอา AI มาช่วยประมวลผลการค้นหาของกูเกิ้ลให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเน้นเรื่องของ Users Signal เป็นหลัก โดยถ้าหากเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณดี และเป็นที่พึงพอใจของผู้เสิร์ชหา การจัดอันดับของเว็บคุณก็จะดีตามขึ้นไปด้วย 

จุดเด่น: ใช้ Machine Learning ช่วยประมวลการค้นหาให้ดีขึ้น 

สิ่งที่ควรทำ: ทำบทความที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านโดยแท้จริง

 

นอกเหนือจาก SEO Google Algorithm ที่กล่าวไปดังข้างต้นนี้ ก็จะมี SEO Google Algorithm อีกมากมายที่คอยอัพเดทให้ผู้ที่ทำ SEO คอยติดตามกันอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากว่าเป็นไปได้ คุณก็ควรปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการค้นหาที่ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก searchenginejournal.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *