Englishจากสถิติพฤติกรรมผู้ใช้งาน Social Media จาก We Are Social ในปี 2023 จะพบว่า แม้ Facebook จะยังครองตำแหน่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้งานมากที่สุดในช่วงไตรมาสแรก คือมีผู้ใช้งานสูงสุดคิดเป็น 91.0% แต่กลับพบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานลดลงถึง 2.0 ล้านคนในประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ไม่ได้มองเฟชบุ๊คเป็นโซเชียลมีเดียหลักที่น่าใช้งานอีกต่อไป แต่ไปเลือกใช้Instagram และ Twitter ที่มีอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานวัยรุ่นค่อนข้างดี ทั้งที่ผู้ใช้ส่วนมากก็ทราบว่า Facebook และ Instagram ต่างก็มีเจ้าของเดียวกันคือ Meta
ปัจจัยที่ทำให้เฟชบุ๊คได้รับความนิยมลดน้อยลงมีผู้วิเคราะห์ไว้มากมาย แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่เราจะกล่าวถึงในคอนเทนต์นี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ Meta จะทำอย่างไรเพื่อกอบกู้จำนวนผู้ใช้ให้กลับมา หนึ่งในนั้นคือการฉกฉวยโอกาสดึงผู้ใช้งานจาก Twitter ที่กำลังมีความเปลี่ยนแปลงมากมายเพราะการเปลี่ยนผู้บริหาร ด้วยการเปิดตัว Threads Instagram
เปิดตัว Threads Instagram
หลังจากที่ Elon Musk ปิดดีลซื้อ Twitter แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2022 ด้วยมูลค่า 44000 ล้านดอลลาร์ ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการชำระแค้น เพราะนอกจากการบริหารที่แทบจะเอาข้อดีเดิมทั้งหมดทิ้งแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งานสำหรับผู้ใช้ ที่แทบจะเรียกได้ว่าบีบให้ผู้ใช้เลิกใช้ไปซะดีกว่า เช่นการขอลูกศรสีฟ้าของแบรนด์หรือคนดังต้องมีค่าใช้จ่าย จำกัดการมองเห็นหรือจำนวนการอ่านต่อบัญชีให้เหลือน้อยลงเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้หลายๆ คนเริ่มอยากมองหาแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ดีกว่ามาใช้แทน
ถือเป็นโอกาสของ Meta ที่กำลังจ้องเพิ่มจำนวนผู้ใช้อยู่พอดี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram จึงถือโอกาสเปิดให้ดาวน์โหลด Threads Instagram ที่แทบจะเป็นคู่แฝดกับ Twitter ทันที
จุดแข็งของ Threads Instagram
ทาง Meta ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการทำแพลตฟอร์มนี้ออกมาเพื่อตีตลาดผู้ใช้ Twitter ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Threads จึงมีหน้าตา จุดประสงค์การใช้งาน แทบไม่แตกต่างจากแพลตฟอร์มต้นฉบับทั้งยังเหนือกว่า ตรงที่สามารถใช้บัญชี Instagram ในการสมัคร รวมถึง Import ผู้ติดตามจาก Instgram มาที่ Threads ได้เลย เท่ากับว่า Meta เลือกผู้ใช้ Instagram ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่มีช่วงวัยและพฤตอกรรมใกล้เคียงกับผู้ใช้ Twitter มาเป็นฐานลูกค้า ซึ่งจุดที่เหมือนกับ Twitter ของ Threads ก็คือ
- รองรับการโพสต์ข้อความสูงสุด 500 ตัวอักษร
- แชร์ลิงก์ รูปภาพ และวิดีโอได้
- ใส่รูปภาพได้สูงสุด10 รูปในหนึ่งเธรด (เท่ากับ Instagram)
- อัปโหลดวิดีโอความยาวสูงสุด 5 นาที
และด้วยความที่เชื่อมต่อบัญชีกับ Instagram ทำให้ Threads สามารถใช้บางฟังก์ชั่นครอสกับ Instagram ได้ เช่น
- มี Bio และรูปโปรไฟล์ แยกกับบัญชี Instagram แต่สามารถเลือก import เป็นค่าเริ่มต้นได้
- สามารถแชร์โพสต์ใน Threads ได้ทั้งใน Story ของ Instagram หรือสร้างเป็นลิงก์เพื่อแชร์ในแพลตฟอร์มอื่น
- Threads จะรองรับโปรโตคอล ActivityPub เร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตฐานเปิดของ W3C ทำให้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นได้ในอนาคต
สิ่งที่ Threads ยังไม่มีแต่ Twitter มีนานแล้ว
หลังเปิดตัวมาได้ 2 สัปดาห์ Threads Instagram ที่มีความคล้ายกับ Twitter มากๆ ยังมีบางฟังก์ชั่นที่ทำไม่ได้ คือ
- แก้ไขข้อความไม่ได้ โพสต์แล้วโพสต์เลย ผิดพลาดไป = เริ่มใหม่
- ยังไม่รองรับระบบ Grouping เนื้อหา หรือ Hashtag
- Filter ข้อความหรือความสนใจยังไม่ได้ สามารถใช้ฟังก์ชั่นเสิร์ชได้เฉพาะชื่อบัญชี(เหมือน Instagram)
- หน้า Home ยังรวมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สามารถแยกหรือติดแท็กผู้ใช้ที่เราสนใจได้
- ห้ามโพสต์เนื้อหาแนว 18+
หลังการเปิดตัวยอดผู้ดาวน์โหลดถล่มทลาย แต่ตอนนี้เริ่มมีแนวโน้มว่าผู้ใช้จะกลับไปหา Twitter
หลังเปิดตัว Threads เรียกได้ว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ใช้งานรายบุคคลและกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อธุรกิจ มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดสูงถึง 30 ล้านคนทั่วโลก ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง แม้จะดูเป็นการเปิดตัวที่ร้อนแรง เพราะยอดดาวน์โหลด Application ใหม่ที่ทำได้ในระดับนี้มีไม่มากนัก แต่ถ้ามองว่าที่จริงแล้ว Threads มีฐานผู้ใช้จาก Instagram อยู่แล้วถึง 500 ล้านบัญชีทั่วโลก ตัวเลขนี้กลับไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น
และหลังจากมีการเปิดให้ดาวน์โหลดได้ไม่ทันไร ก็มีเสียงบ่นจากกลุ่มผู้ใช้งานที่เริ่มเปรียบเทียบระหว่าง Threads กับเจ้าเก่าอย่าง Twitter ว่า Twitter น่าใช้กว่า ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ
Threads Instagram ต้องมีบัญชี Instagram เท่านั้นถึงจะใช้ได้
นี่ถือเป็นจุดแข็งที่ Meta มองว่าควรจะได้เปรียบเป็นอย่างยิ่งในการดึงผู้ใช้จาก Instagram ซึ่งมีอยู่ถึง 500 ล้านบัญชีทั่วโลกมาใช้ Threads ในขณะที่ผู้ใช้ Twitter มีอยู่ราวๆ 368 ล้านบัญชีเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า ผู้ใช้งาน Instagram ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ใช้ Twitter กลับไม่ได้ตื่นตัวกับ Threads เท่าที่ควร และผู้ใช้งานที่ไม่มีบัญชี Instagram ก็ไม่สามารถใช้งาน Threads ได้ กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ปิดแทนที่จะเปิดกว้าง
แต่ปัญหานี้คาดว่าอีกไม่นาน Meta น่าจะทำการแก้ไขให้ไม่จำกัดเฉพาะผู้ใช้งาน Instagram เท่านั้น
แยกความสนใจไม่ได้ และเสิร์ชหาก็ไม่ได้
จุดแข็งที่สุดของ twitter คือการติดตามสถานการณ์หรือเรื่องที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่กำลังฮอตในขณะนั้นไว้ในที่เดียวด้วย #แฮชแท็ก ที่ทำให้การคัดกรองเรื่องที่สนใจสำหรับผู้ใช้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย แต่ Threads ในขณะนี้ยังไม่การกรุ๊ปปิ้งที่ดีพอ ทำให้การตามหาข่าวสารหรือค้นหาเรื่องที่สนใจยังทำไม่ได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถเสิร์ชเนื้อหาด้วยคีย์เวิร์ดได้ ซึ่งการเสิร์ชเนื้อหาถือเป็นจุดอ่อนของ Meta มาตั้งแต่ Facebook ทำให้เสน่ห์ของ Twitter ที่ควรจะมี ไม่ปรากฎอยู่ใน Threads
แยกเนื้อหาไม่ได้ทุกอย่างรวมกันใน Home
ทุกอย่างใน Threads ยังไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโพสต์จากผู้ติดตามเราผู้ที่เราติดตาม หรือโพสต์ที่น่าสนใจ รวมกันอยู่ในหน้า Home จึงทำให้ผู้ใช้เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่กับการใช้ Threads
แต่อย่างไรก็ดีในตอนนี้ Threads ก็มีผู้ใช้งานสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถครองสถิติจำนวนดาวน์โหลด 100 ล้านครั้งในเวลา 5 วัน ในขณะที่ twitter ต้องใช้เวลาในการปั้นถึง 5 ปี จากนี้โจทย์ของ Meta จึงเป็นการทำอย่างไรให้ผู้ใช้ไม่หนีไปที่อื่น และตอบโจทย์ด้านการใช้งาน รวมถึงจัดระเบียบฟีเจอร์ต่างๆ ให้ดีกว่าปัจจุบัน
ถ้าคุณชอบเรื่อง Digital Marketing ติดตาม A8Digital ไว้ได้เลย
