Off-Page SEO คืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำ SEO ในปี 2025

Off-Page SEO คืออะไร

ในยุคที่ Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้มากขึ้น การจัดอันดับเว็บไซต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เนื้อหาที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น การทำ On-Page SEO ที่ต้องตอบโจทย์ผู้ใช้ ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ต้องรวดเร็วและใช้งานง่าย โครงสร้างเว็บที่เป็นมิตรกับ Google Bot และที่สำคัญคือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในโลกออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Domain Authority

 

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ การทำ Off-page SEO คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ มาดูกันว่าเทคนิคนี้จะช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณก้าวขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของ Google ได้อย่างไร

 

การทำ Off-Page SEO คืออะไร?

Off-page SEO เป็นมากกว่าแค่การทำ SEO นอกเว็บไซต์ แต่คือศิลปะของการสร้างความน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล ในยุคที่ผู้คนใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมงต่อวันบนโลกออนไลน์ การสร้างตัวตนของแบรนด์ผ่านช่องทางต่างๆ จึงสำคัญมาก ลองนึกภาพว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นร้านค้าที่เพิ่งเปิดในย่านธุรกิจ การที่มีคนพูดถึงร้านคุณในโซเชียล มีบล็อกเกอร์มารีวิว หรือมีสื่อออนไลน์มานำเสนอข่าว ก็เหมือนกับการที่ร้านคุณได้รับการการันตีจากคนในแวดวง นี่คือหัวใจของ Off-page SEO

 

การทำ Off-page SEO ครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การสร้าง Backlinks คุณภาพ การสร้างการรับรู้แบรนด์บนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการทำ Content Marketing ที่กระตุ้นให้เกิดการแชร์และพูดถึง ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อ Trust Signals ที่ Google ใช้จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ

 

ทำไม Off-page SEO จึงมีบทบาทสำคัญ และจะเลี่ยงการทำได้หรือไม่?

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำ Off page SEO คือปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม แม้ว่า Google จะพัฒนาอัลกอริทึมให้ฉลาดขึ้น แต่การสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับในวงกว้างยังคงเป็นสิ่งที่ Google ให้น้ำหนักในการจัดอันดับ เปรียบเสมือนร้านอาหารสองร้านที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน ร้านที่มีคนพูดถึงมากกว่า มีรีวิวจากบล็อกเกอร์ชื่อดัง และได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ย่อมได้รับความเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า

 

ในยุคที่ผู้คนใช้ Social Proof ในการตัดสินใจ การได้รับ Backlinks คุณภาพ การถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย และการมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนออนไลน์ ล้วนสำคัญต่อการจัดอันดับใน Google ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่มีบทความถูกแชร์ในเว็บวิศวกรรมชั้นนำ มีผู้เชี่ยวชาญอ้างอิงถึง และมีการพูดถึงในเวทีอุตสาหกรรม ย่อมได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเว็บไซต์ที่มีแค่การทำ On-page SEO ที่ดี

 

ความแตกต่างระหว่าง On-Page SEO กับ Off-Page SEO

On-Page SEO เปรียบเสมือนการตกแต่งบ้านให้สวยงามและน่าอยู่ คุณต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดภายใน ตั้งแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ (การจัดรูปแบบเนื้อหา) ไปจนถึงการติดป้ายบ้านเลขที่ให้ชัดเจน (Title tag และ Meta description) การเลือกใช้คำที่ลูกค้าค้นหา (Keywords) และการจัดระเบียบทางเดินภายในบ้าน (Internal Link) ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทั้งผู้เยี่ยมชมและ Google เข้าใจบ้านของคุณได้ดียิ่งขึ้น

 

ส่วน Off-Page SEO คือการสร้างชื่อเสียงให้บ้านของคุณในชุมชนออนไลน์ เหมือนการที่มีคนมาแนะนำบ้านคุณ (Backlinks) หรือการที่ชื่อบ้านคุณถูกพูดถึงในงานสังคมต่างๆ (Brand Mentions) ซึ่งในยุคที่ผู้คนเชื่อถือรีวิวและคำแนะนำจากคนอื่น การสร้างความน่าเชื่อถือแบบนี้มีความสำคัญมาก

 

Off-Page SEO มีประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร ?

การทำ Off-Page SEO มีความซับซ้อนและต้องใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบ ในยุคที่ Google ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ การสร้าง Backlinks ต้องมาจากแหล่งที่เกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับการสร้างคอนเนคชั่นในโลกธุรกิจ ที่คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ การเชื่อมโยงที่ไม่เหมาะสม เช่น เว็บขายรถยนต์ไปขอลิงก์จากบล็อกทำอาหาร อาจส่งผลเสียจนถูก Google ลงโทษได้

 

กุญแจสำคัญของ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพคือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เมื่อเนื้อหามีประโยชน์ การได้ Backlinks คุณภาพจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ Google ประเมินคุณภาพเว็บไซต์จากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมผู้ใช้และการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ดังนั้น การทำ SEO ที่ดีจึงต้องวางกลยุทธ์แบบครบวงจร

 

วิธีการทำ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลในปี 2025

การทำ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางกลยุทธ์อย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่การสร้าง Backlinks แต่ต้องผสมผสานหลายเทคนิคเข้าด้วยกัน ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ การทำ Content Marketing ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และการใช้สื่อมัลติมีเดียอย่างวิดีโอและ Podcasts เพื่อเข้าถึงผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีรายละเอียดและข้อควรระวังอย่างไรบ้าง

 

1. การสร้าง Backlink และกลยุทธ์การเชื่อมโยงเว็บไซต์ (Link Building) อย่างมีประสิทธิภาพ

Link Building เป็นหัวใจสำคัญของ SEO Off-Page โดยเฉพาะในยุคที่เนื้อหาสร้างได้ง่ายด้วย AI คุณภาพของ Backlink จึงสำคัญกว่าปริมาณ เปรียบเสมือนการได้รับการแนะนำตัวจากผู้มีอิทธิพลในวงการ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าการถูกพูดถึงโดยบัญชีปลอมนับร้อย ดังนั้น การสร้าง Backlink ต้องมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้ Google เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่แท้จริง

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Backlink มีประสิทธิภาพ

 

  • Domain Authority เว็บไซต์ผู้ให้ลิงก์ต้องมีความน่าเชื่อถือในสายตา Google เหมือนการได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
  • Organic Traffic เว็บไซต์ต้องมีผู้เข้าชมจริง มีการอัปเดตสม่ำเสมอ และมีการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ ไม่ใช่เว็บที่สร้างขึ้นเพื่อขาย Backlink เพียงอย่างเดียว
  • Relevancy ตรงกลุ่มเป้าหมายลิงก์ต้องมาจากเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน เช่น เว็บขายเครื่องสำอางควรได้ Backlink จากเว็บรีวิวความงาม เว็บสอนแต่งหน้า หรือเว็บข่าวด้านแฟชั่นและความสวยความงาม เป็นต้น

 

2. การสร้างแบรนด์และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการทำ Brand Building

การสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัลมีผลต่อ SEO มากกว่าที่คุณคิด เมื่อแบรนด์เป็นที่จดจำ ผู้คนจะค้นหาชื่อแบรนด์บน Google บ่อยครั้ง ส่งผลให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมี Brand Authority สูง เปรียบเสมือนร้านค้าที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา ย่อมได้รับความเชื่อถือมากกว่าร้านที่เงียบเหงา และเมื่อแบรนด์แข็งแกร่ง คุณจะได้รับ Natural Backlinks จากการที่ผู้คนพูดถึงและแชร์เนื้อหาของคุณโดยอัตโนมัติ เหมือนการบอกต่อแบบปากต่อปากในโลกออนไลน์

 

3. การทำ Content Marketing เพื่อสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์

Content Marketing ไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหาเพื่อ On-Page SEO เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับ Off-Page SEO ในยุคที่ผู้คนต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีคุณค่า การสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นจึงเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดทั้ง Backlinks และการมีส่วนร่วมจากผู้อ่าน

 

ลองนึกภาพว่าคอนเทนต์ของคุณเป็นเหมือนร้านกาแฟที่มีกลิ่นหอมชวนให้คนเดินเข้ามา เมื่อคุณสร้างบทความที่มีคุณภาพ อินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย หรือวิดีโอที่ให้ความรู้ คอนเทนต์เหล่านี้จะถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียลโดยธรรมชาติ เกิดเป็น Viral Content ที่สร้าง Brand Awareness และ Natural Backlinks จากแหล่งที่มีคุณภาพ ซึ่งมีค่ามากกว่าการไปขอ Backlinks แบบเดิมๆ หลายเท่า

 

4. การทำวิดีโอและ Podcasts เพื่อการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง

ในยุคที่ผู้คนใช้เวลากับการดูวิดีโอและฟัง Podcasts มากขึ้น การสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มเหล่านี้จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็น YouTube ที่เป็นเสมือนเครื่องมือค้นหาอันดับ 2 ของโลก, TikTok ที่มีอัลกอริทึมแนะนำคอนเทนต์ที่แม่นยำ, หรือ Instagram ที่กำลังผลักดันฟีเจอร์วิดีโอ Reels อย่างหนัก

 

การสร้าง Visual Content ที่มีคุณภาพบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้าง Engagement แต่ยังเป็นการเพิ่ม Social Signals ให้กับแบรนด์ เมื่อผู้ชมสนใจเนื้อหาของคุณ พวกเขาจะติดตามลิงก์ในคำอธิบายวิดีโอมาที่เว็บไซต์ ส่งผลให้เกิด Referral Traffic ที่มีคุณภาพ เพราะผู้ชมเหล่านี้มีความสนใจในเนื้อหาของคุณอยู่แล้ว

 

5. การทำ Local SEO เพื่อปรับแต่งธุรกิจให้โดดเด่นในการค้นหาท้องถิ่น

ในยุคที่ผู้คนค้นหาธุรกิจผ่าน Google Maps การทำ Local SEO จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม จุดเริ่มต้นอยู่ที่การสร้างและปรับแต่ง Google Business Profile ให้สมบูรณ์ที่สุด เปรียบเสมือนการสร้าง “หน้าร้านดิจิทัล” ที่เปิดต้อนรับลูกค้า 24 ชั่วโมง โดยแสดงข้อมูลสำคัญทั้งที่อยู่ เบอร์โทร เวลาทำการ รูปภาพ และรีวิวจากลูกค้าจริง

 

การอัปเดตข้อมูลและตอบรีวิวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์โปรโมชั่น แจ้งวันหยุด หรือแชร์กิจกรรมต่างๆ เพราะ Google ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวและโต้ตอบกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและการจัดอันดับใน Local Search Results

 

6. การใช้ Social Media เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง

Social Media เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล ลองนึกภาพว่าทุกครั้งที่คุณเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือการเช็ค Facebook, Instagram หรือ TikTok เช่นเดียวกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 90% ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย นี่คือโอกาสทองในการสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย

 

แม้ว่า Social Signals จาก Facebook, Instagram หรือ X (Twitter) จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อ Rankings เพราะเป็น NoFollow Links แต่การที่คนแชร์ กดไลค์ และคอมเมนต์เนื้อหาของคุณในปริมาณมาก จะส่งสัญญาณบวกให้ Google เห็นว่าแบรนด์ของคุณมี Authority และได้รับการยอมรับในวงกว้าง ซึ่งส่งผลดีต่อ SEO ในระยะยาว เปรียบเสมือนการสร้างกองเชียร์ที่พร้อมจะสนับสนุนและบอกต่อเรื่องราวของแบรนด์คุณ

 

7. การทำ Influencer Marketing กับผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์

ในยุคที่ผู้คนเสพคอนเทนต์ผ่าน Social Media มากขึ้น Influencer กลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ พวกเขาไม่ใช่แค่คนดังบน Social Media แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่สร้างคอมมูนิตี้เฉพาะทาง สร้างการมีส่วนร่วม และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ติดตาม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ Brand Authority ในสายตา Google

 

การทำ Influencer Marketing จึงเป็นกลยุทธ์ Off-Page SEO ที่ทรงพลัง โดยเฉพาะเมื่อร่วมมือกับ Micro-Influencer ที่มีความเชี่ยวชาญตรงกับธุรกิจของคุณ เพราะการรีวิวสินค้า แชร์บทความ หรือสร้างคอนเทนต์ร่วมกัน ไม่เพียงสร้าง Organic Traffic คุณภาพสูง แต่ยังเพิ่ม Social Signals ที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในระบบนิเวศดิจิทัล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับของ Google

 

8. การจัด Events เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ของคุณ

ในยุคที่การจัดอีเวนต์ออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ แบรนด์ที่ฉลาดจะใช้โอกาสนี้สร้างปรากฏการณ์บนโลกดิจิทัล ลองนึกภาพการจัด Virtual Conference ที่รวมผู้เชี่ยวชาญในวงการมาแชร์ความรู้ ไม่เพียงสร้าง Brand Authority แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิด Natural Backlinks จากสื่อและพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงาน เช่น เว็บไซต์ข่าว บล็อกเกอร์ที่มารีวิว หรือ Micro-Influencers ที่แชร์ไฮไลท์งาน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งสัญญาณเชิงบวกให้ Google เห็นว่าแบรนด์ของคุณเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

 

9. การเขียนบทความ Guest Blogging บนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

Guest Blogging คือการนำความเชี่ยวชาญของคุณไปแบ่งปันบนเว็บไซต์ที่มี Authority สูง เปรียบเสมือนการได้รับเชิญไปพูดบนเวทีที่มีผู้ชมคุณภาพ การเลือกเว็บไซต์ที่จะร่วมงานด้วยต้องดูให้ตรงกับ Niche ของคุณ และมี Domain Rating ที่ดี เมื่อคุณสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เว็บโฮสต์มักยินดีให้คุณใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ หรือแนะนำตัวในส่วนประวัติผู้เขียน ซึ่งเป็นวิธีที่ Google มองว่าเป็นธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน

 

10. การทำ Forums Marketing เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

Forums Marketing ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้าง Brand Authority โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่อย่าง pantip.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ค้นหาข้อมูล และแชร์ประสบการณ์ การเข้าไปมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม แชร์ความรู้ที่มีคุณค่า พร้อมแทรก Contextual Links ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงช่วยสร้าง Referral Traffic คุณภาพสูง แต่ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมแบ่งปันความรู้ให้กับชุมชน

 

11. การทำ Review หน้าเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ในโลกดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้น รีวิวกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถสร้างหรือทำลายแบรนด์ได้ในพริบตา ลองนึกภาพว่าคุณกำลังจะสั่งอาหารจากร้านใหม่ สิ่งแรกที่คุณทำคือเช็ครีวิวบน Wongnai หรือ Google Maps ใช่ไหม? พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับการสั่งอาหาร แต่เกิดขึ้นกับทุกการตัดสินใจซื้อในโลกออนไลน์

 

สำหรับธุรกิจออนไลน์ การมีรีวิวเชิงบวกจำนวนมากไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าใหม่ แต่ยังส่งสัญญาณถึง Google ว่าแบรนด์ของคุณเป็นที่ยอมรับและควรค่าแก่การจัดอันดับที่ดี นี่คือเหตุผลที่ Google ใช้ข้อมูลจาก Google Business Profile และแพลตฟอร์มรีวิวชั้นนำเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SERP

 

ข้อควรระวังสำหรับ Off-Page SEO เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

การทำ Off-Page SEO ในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้าง Backlink เท่านั้น เพราะ Google ที่ฉลาดขึ้นสามารถตรวจจับการสร้าง Backlink ที่ไม่เป็นธรรมชาติได้ โดยเฉพาะการสร้าง Backlink ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น เว็บขายรองเท้าไปทำ Backlink กับเว็บอาหาร ซึ่งอาจทำให้อันดับของคุณตกลงอย่างรวดเร็ว

 

ในปี 2025 นี้ การทำ SEO Off-Page ที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มจากการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและตรงความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก แล้วจึงขยายไปสู่การสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน Backlink ที่มีคุณภาพและเป็นธรรมชาติ

 

สรุป

การทำ SEO ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้การแข่งขันบน Search Engine มีความท้าทายมากขึ้น ทั้ง On-Page และ Off-Page SEO จึงต้องทำอย่างมีกลยุทธ์และรอบคอบ เพราะแม้แต่ความผิดพลาดเล็กๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับการค้นหาได้ การมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จ

 

A8Digital เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะการทำ SEO มาอย่างยาวนาน ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจทั้งเทรนด์ดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ติดต่อเราวันนี้เพื่อยกระดับธุรกิจของคุณสู่อันดับต้นๆ ของ Google ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี และยกระดับธุรกิจออนไลน์ของคุณไปอีกขั้น! คลิ๊ก ติดต่อที่นี่

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *