English
เมื่อคุณค้นหาข้อมูลบางอย่างใน Google แล้วพบคำตอบสั้น ๆ ที่แสดงอยู่เหนือผลการค้นหาปกติ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Featured Snippets หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “อันดับ 0” ซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการเพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณา
Google ใช้ Featured Snippets เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วและตรงประเด็น โดยเนื้อหาที่ปรากฏในตำแหน่งนี้มักจะมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ มีโครงสร้างชัดเจน และตอบคำถามของผู้ใช้อย่างตรงจุด
Featured Snippets คืออะไร
Featured Snippets คือการแสดงผลลัพธ์การค้นหาที่หน้าแรกของ Google เป็นอันดับที่มากกว่าอันดับ 1 จึงถูกเรียกกันว่าเป็นเว็บไซต์ติดอันดับ 0 ที่หน้าแรก Featured Snippet เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน Google มีเนื้อหาคำตอบที่กระชับ ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์สูงสุดโดยตรง
Google จะเลือกแสดงเนื้อหาในตำแหน่งนี้จากเว็บไซต์ที่สามารถตอบคำถามของผู้ใช้งานได้ตรงประเด็น มีโครงสร้างเนื้อหาชัดเจน และใช้ภาษาที่กระชับเข้าใจง่าย จุดมุ่งหมายของฟีเจอร์นี้คือการช่วยให้ผู้ค้นหาสามารถ “เห็นคำตอบ” ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์เสมอไป ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน และเป็นโอกาสสำคัญทาง SEO สำหรับเจ้าของเว็บไซต์
ประเภทของ Featured Snippets
Featured Snippets แบ่งออกได้หลายรูปแบบ ได้แก่ แบบย่อหน้า (Paragraph), แบบรายการ (List), แบบตาราง (Table) และแบบวิดีโอ (Video) แต่ละประเภทเหมาะกับข้อมูลที่ต่างกัน เช่น การแนะนำขั้นตอนจะนิยมใช้แบบ List ขณะที่ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบอาจแสดงในรูปแบบ Table
Featured Snippets ต่างจาก Rich Snippets อย่างไร?
แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่สองสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน Featured Snippets คือเนื้อหาที่ Google ดึงมาจากหน้าเว็บไซต์มาแสดงโดยตรงในผลการค้นหาส่วนบน ขณะที่ Rich Snippets คือการตกแต่งผลการค้นหา เช่น การเพิ่มดาวให้รีวิว ตารางเวลา หรือข้อมูลสินค้า โดยอาศัย Schema Markup
ประโยชน์ของการติด Featured Snippets
การที่เว็บไซต์ของคุณติด Featured Snippets มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การเพิ่มการมองเห็น (Visibility), เพิ่มอัตราการคลิก (CTR) และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ใช้ แม้ในบางกรณีจะมีการคลิกน้อยลงเพราะผู้ใช้ได้คำตอบทันที แต่ภาพรวมยังถือว่าเป็นผลดีต่อแบรนด์และ SEO
ปัจจัยที่ช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสติด Featured Snippets
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าใจว่า Google เลือกเนื้อหาจากหน้าเว็บที่ให้คำตอบได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น และจัดรูปแบบเนื้อหาอย่างเหมาะสม เช่น ใช้หัวข้อย่อยที่มีโครงสร้าง (H2, H3), มีคำถามที่ชัดเจน และตอบด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
การเลือกคีย์เวิร์ดก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะคีย์เวิร์ดในรูปแบบคำถาม เช่น “คืออะไร”, “วิธีการ”, “ทำอย่างไร” ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกนำมาแสดงเป็น Featured Snippets มากกว่าคีย์เวิร์ดทั่วไป
การใช้ Schema Markup เพื่อเสริมโอกาสในการติด Snippet
Schema Markup เป็นโค้ดที่ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาประเภทคำถาม-คำตอบ (FAQ), บทความ หรือขั้นตอน (How-to) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกเลือกมาแสดงในรูปแบบ Featured Snippets หากคุณใส่โครงสร้างข้อมูลอย่างเหมาะสม
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ
หลายเว็บไซต์ที่ทำ SEO ได้ดีสามารถขึ้นไปอยู่ในตำแหน่ง Featured Snippets ได้ เช่น บล็อกของนักการตลาดที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Google Ads หรือเว็บไซต์รีวิวสินค้าที่จัดเรียงข้อมูลเปรียบเทียบอย่างชัดเจน สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ การจัดโครงสร้างเนื้อหาดี ตอบคำถามได้ตรง และใช้ภาษาเข้าใจง่าย
การวัดผลและติดตาม
หากคุณต้องการทราบว่าเว็บไซต์ของคุณติด Featured Snippets หรือไม่ สามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Search Console, Ahrefs หรือ SEMrush ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะ Ahrefs จะมีแท็บแยกให้ดูว่าเว็บไซต์ของคุณมีคีย์เวิร์ดใดที่ติด Snippet บ้าง พร้อมแสดงตำแหน่งการจัดอันดับด้วย
Featured Snippets กับการค้นหาด้วยเสียง
ในยุคที่ผู้ใช้งานเริ่มค้นหาด้วยเสียงมากขึ้น Featured Snippets จึงมีบทบาทสำคัญมาก เนื่องจากคำตอบที่ถูกอ่านออกมาจากอุปกรณ์ Google Assistant หรือ Siri มักมาจากเนื้อหาในตำแหน่งนี้ ดังนั้นการตอบคำถามด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติและกระชับจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกเลือก
อัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาตำแหน่ง
การติด Featured Snippets ไม่ใช่เรื่องถาวร หากคู่แข่งของคุณปรับปรุงเนื้อหาได้ดีกว่า Google ก็สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้ทันที ดังนั้นคุณควรกลับมาตรวจสอบและอัปเดตเนื้อหาเป็นประจำเพื่อให้ยังคงอยู่ในอันดับ 0 ได้ต่อเนื่อง
แนวโน้มของ Featured Snippets ในอนาคต
Google เริ่มให้ความสำคัญกับเจตนาของผู้ใช้งานมากขึ้น และกำลังพัฒนา AI ที่เข้าใจคำถามซับซ้อนได้ดีขึ้น นั่นหมายความว่าการทำเนื้อหาคุณภาพสูงที่ตอบคำถามได้อย่างละเอียด พร้อมอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการแข่งขันเพื่อขึ้น Featured Snippets
สรุปและคำแนะนำ
หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ติด Featured Snippets ควรเริ่มจากการศึกษาคำถามที่ผู้ใช้ค้นหาจริง แล้วเขียนเนื้อหาที่ตอบคำถามนั้นโดยตรงภายใต้โครงสร้างที่เป็นมิตรกับ Google อย่าลืมตรวจสอบผลลัพธ์เป็นประจำ อัปเดตข้อมูล และใช้เครื่องมือ SEO เพื่อวิเคราะห์และวางแผนอย่างต่อเนื่อง
หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติด Featured Snippets ลองเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์หน้าเพจปัจจุบันของคุณ พร้อมปรับปรุงเนื้อหาตามแนวทางที่กล่าวมา หรือหากต้องการทีมที่เชี่ยวชาญช่วยวางกลยุทธ์ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ ติดต่อทีมของเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลย คลิ๊ก ติดต่อที่นี่
เพราะปรากฏอยู่เหนืออันดับ 1 ของผลการค้นหาแบบปกติ จึงเรียกกันว่าอันดับ 0 และมักได้รับการมองเห็นก่อนใคร
Google ใช้ Featured Snippets เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับคำตอบที่ตรงกับคำถามมากที่สุดในเวลารวดเร็ว โดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การค้นหาให้ดีขึ้น และยังทำให้ข้อมูลสำคัญปรากฏในตำแหน่งเด่นที่สุดของหน้าผลการค้นหา
โดยทั่วไป Featured Snippets มีแนวโน้มเพิ่มอัตราการมองเห็นและ CTR ให้กับเว็บไซต์ แต่ในบางกรณีอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่คลิกต่อเพราะได้คำตอบแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจัดโครงสร้างเนื้อหาอย่างถูกต้อง โอกาสในการเพิ่มทราฟฟิกยังคงมีมากกว่าเสีย
Featured Snippets ไม่มีความคงที่ตลอดเวลา Google จะอัปเดตผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ โดยพิจารณาจากคุณภาพของเนื้อหา ความสดใหม่ และความตรงกับคำค้นของผู้ใช้งาน จึงควรอัปเดตบทความอยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียตำแหน่งนี้
Google จะเลือกเนื้อหาที่ให้คำตอบตรงประเด็น มีโครงสร้างที่ชัดเจน และอยู่ในหน้าเพจที่เชื่อถือได้เท่านั้น
