มือใหม่ต้องรู้! Backlink คืออะไร? ช่วย SEO ได้จริงหรือ?

Backlink สำคัญยังไง? รู้ไว้ก่อนเว็บหายจากหน้าแรก Google! (อัปเดต 2025)

Backlink คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อ SEO ในโลกการแข่งขันทางออนไลน์ที่เข้มข้นขึ้นทุกวันของปี 2025 Backlink ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์ แม้อัลกอริทึมของ Google จะพัฒนาไปมาก แต่การมี Backlink ที่มีคุณภาพยังคงเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ หลายธุรกิจต้องเผชิญกับความจริงอันน่าตกใจเมื่อเว็บไซต์ที่เคยติดอันดับต้นๆ กลับหายไปจากหน้าแรกของผลการค้นหา เพียงเพราะละเลยกลยุทธ์ Backlink ที่เหมาะสม ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงเหตุผลที่ Backlink ยังคงเป็นดาวเด่นใน SEO ยุค 2025 พร้อมเทคนิคล่าสุดที่จะช่วยปกป้องอันดับเว็บไซต์ของคุณจากการหายไปในสมรภูมิออนไลน์ที่ดุเดือด

 

Backlink คืออะไร?

หากจะอธิบายแบบเข้าใจง่าย Backlink SEO ก็คือเมื่อเว็บไซต์อื่นทำการลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา รวมถึงกรณีที่เว็บไซต์เราลิงก์ออกไปยังเว็บไซต์อื่นด้วย ในแง่ของ SEO นั้น Google ให้ความสำคัญอย่างมากกับการที่มีเว็บอื่นลิงก์เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา เพราะนี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์เรามีคุณค่า ทั้งในแง่ของเนื้อหา ความน่าเชื่อถือ และการเป็นแหล่งข้อมูลที่ดี เมื่อเว็บไซต์ของคุณได้รับ Backlink จำนวนมาก โอกาสที่จะติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือคุณภาพของเว็บไซต์ที่ลิงก์มาหาเรา เพราะ Backlink คุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือย่อมมีค่ามากกว่า Backlink จำนวนมากจากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ

 

Backlink สำคัญยังไง?

Backlink ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งในกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากทำหน้าที่เสมือน “โหวต” หรือ “การรับรอง” จากเว็บไซต์อื่นที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ Google และเสิร์ชเอนจินอื่นๆ ใช้ Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการจัดอันดับเว็บไซต์ โดยพิจารณาทั้งปริมาณและคุณภาพของลิงก์ที่ชี้มา เว็บไซต์ที่มี Backlink คุณภาพสูงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือจะได้รับ “Link Juice” หรือคะแนนความน่าเชื่อถือที่ส่งต่อมา ส่งผลให้อันดับในผลการค้นหาดีขึ้น นอกจากนี้ Backlink ยังช่วยให้ Google Bot ค้นพบและอินเด็กซ์หน้าเว็บใหม่ของคุณได้เร็วขึ้น ทำให้เนื้อหาปรากฏในผลการค้นหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

นอกจากผลต่อ SEO แล้ว Backlink ยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณในหลายมิติ มันช่วยให้ Googlebot ค้นพบและอินเด็กซ์เนื้อหาใหม่ของคุณได้เร็วขึ้น เพราะเมื่อบอทพบลิงก์ที่ชี้มายังหน้าเว็บของคุณ มันจะติดตามลิงก์นั้นและเพิ่มหน้าใหม่เข้าสู่ฐานข้อมูลการค้นหา On Page SEO ที่มีคุณภาพยังนำทราฟฟิกโดยตรงมายังเว็บไซต์ เมื่อผู้ใช้พบลิงก์ที่น่าสนใจบนเว็บอื่น พวกเขามักจะคลิกเพื่อเข้าชมเนื้อหาของคุณ นอกจากนี้ การมีโปรไฟล์ Backlink ที่หลากหลายและเป็นธรรมชาติยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความทนทานต่อการอัปเดตอัลกอริทึมของ Google และรักษาอันดับได้ดีในระยะยาว เนื่องจากมีหลักฐานจากภายนอกที่ยืนยันถึงคุณค่าของเนื้อหา

 

Backlinks มีกี่ประเภท? แต่ละประเภทมีความแตกต่างอย่างไร?

Backlink ไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว แต่แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามคุณลักษณะและวิธีการทำงาน ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทต่างๆ ของ Backlink จะช่วยให้คุณวางแผนกลยุทธ์ On Page และ Off Page SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ละประเภทมีบทบาทและความสำคัญที่แตกต่างกันในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ มาทำความรู้จักกับประเภทหลักๆ ของ Backlink กันดังนี้

 

Dofollow Backlink คืออะไร?

Dofollow Backlink เป็นประเภทของลิงก์ที่ช่วยส่งต่อ “น้ำหนัก” หรือ “คุณค่า” จากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง โดยปกติแล้ว ลิงก์ทั่วไปจะเป็น Dofollow โดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะถูกกำหนดให้เป็นอย่างอื่น ลิงก์ประเภทนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำ SEO เพราะเป็นสัญญาณที่บอกกับ Google ว่าเว็บไซต์ที่ลิงก์ไปมีความน่าเชื่อถือและมีคุณค่า ทำให้ Google พิจารณาจัดอันดับเว็บไซต์ปลายทางให้สูงขึ้น

 

Nofollow Backlink คืออะไร?

Nofollow Backlink คือลิงก์ที่มีแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” กำกับไว้ ซึ่งบอกให้เครื่องมือค้นหาทราบว่าไม่ควรส่งต่อคุณค่าหรือความน่าเชื่อถือไปยังเว็บไซต์ปลายทาง แม้ว่า Nofollow จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ แต่ก็ยังมีประโยชน์ในแง่ของการสร้างความหลากหลายให้กับโปรไฟล์ลิงก์ของคุณ และยังสามารถนำทราฟฟิกมาสู่เว็บไซต์ได้ มักพบ Nofollow Backlink ในความคิดเห็นบนบล็อก ฟอรั่ม หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ

 

Sponsored Backlink คืออะไร?

Sponsored Backlink เป็นประเภทของลิงก์ที่มีแอตทริบิวต์ rel=”sponsored” ซึ่งใช้สำหรับลิงก์ที่เกิดจากการจ่ายเงินหรือได้รับการสนับสนุน เช่น การโฆษณา หรือการเป็นสปอนเซอร์ Google แนะนำให้ใช้แอตทริบิวต์นี้เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างลิงก์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติกับลิงก์ที่เกิดจากการจ่ายเงิน การใช้ Sponsored Backlink อย่างถูกต้องช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษจาก Google เนื่องจากการซื้อลิงก์โดยไม่ระบุให้ชัดเจน

 

UGC Backlink คืออะไร?

UGC Backlink ย่อมาจาก User Generated Content Backlink คือลิงก์ที่มีแอตทริบิวต์ rel=”ugc” ซึ่งใช้สำหรับลิงก์ที่มาจากเนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้ เช่น ความคิดเห็นในบล็อก กระทู้ในฟอรั่ม หรือรีวิวต่างๆ Google แนะนำให้ใช้แอตทริบิวต์นี้เพื่อระบุว่าลิงก์นั้นมาจากผู้ใช้ ไม่ใช่จากเจ้าของเว็บไซต์เอง ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจบริบทของลิงก์ได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการป้องกันเว็บไซต์ของคุณจากการถูกลงโทษหากมีผู้ใช้พยายามสร้างลิงก์สแปม

 

Backlink ที่ดีเป็นยังไง? และแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง?

การสร้าง Backlink ไม่ใช่เพียงแค่การหาลิงก์ให้มากที่สุด แต่คุณภาพของ Backlink มีความสำคัญมากกว่าปริมาณอย่างมาก Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ มีความซับซ้อนมากขึ้นในการประเมินคุณภาพของลิงก์ที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ ในอดีต การมี Backlink จำนวนมากอาจช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงได้ แต่ปัจจุบัน กลยุทธ์นี้ไม่เพียงไม่ได้ผล แต่ยังอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษได้อีกด้วย

 

การเข้าใจว่า Backlink แบบใดที่มีคุณค่าและแบบใดที่ควรหลีกเลี่ยงจะช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยไม่เสี่ยงต่อการถูกลงโทษจาก Google เรามาดูกันว่า Backlink ที่ดีนั้นมีลักษณะอย่างไร และแบบไหนที่คุณควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

 

Backlink แบบไหนที่ดี?

Backlink ที่มีคุณภาพสูงมักมาจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีอำนาจในด้านนั้นๆ เมื่อเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการลิงก์มาที่เว็บของคุณ ถือเป็นการโหวตความไว้วางใจให้กับเนื้อหาของคุณ นอกจากนี้ backlink ที่ดีควรมาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาของคุณ เช่น หากคุณมีเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ การได้รับ backlink จากบล็อกอาหารที่มีชื่อเสียงหรือเว็บไซต์ด้านสุขภาพจะมีค่ามากกว่าลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับยานยนต์ backlink ที่ดียังควรมาพร้อมกับข้อความแอนเคอร์ (anchor text) ที่เกี่ยวข้องและเป็นธรรมชาติ ไม่พยายามยัดเยียดคีย์เวิร์ดมากเกินไป และที่สำคัญ backlink ที่มีคุณภาพมักเกิดจากการที่ผู้อื่นเห็นคุณค่าในเนื้อหาของคุณจริงๆ จึงต้องการแชร์ให้กับผู้อื่น

 

Backlink แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง?

Backlink ที่ควรหลีกเลี่ยงคือลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์คุณภาพต่ำหรือเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้าง backlink เท่านั้น เช่น เว็บไซต์ Private Blog Networks (PBNs) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกระบบการจัดอันดับของ Google นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยง backlink จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณโดยสิ้นเชิง หรือเว็บไซต์ที่มีลิงก์ออกจำนวนมากเกินไป อย่างเช่น เว็บไซต์ไดเรกทอรี่ลิงก์ทั่วไปที่ไม่มีการคัดกรองคุณภาพ การซื้อลิงก์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะขัดกับแนวทางของ Google และอาจนำไปสู่การถูกลงโทษได้ นอกจากนี้ backlink ที่มีรูปแบบ anchor text เดียวกันซ้ำๆ หรือใช้คีย์เวิร์ดเดียวกันมากเกินไปก็อาจทำให้ Google มองว่าคุณกำลังพยายามปั่น SEO และอาจส่งผลเสียต่ออันดับของคุณในระยะยาว

 

Backlink Checker คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

Backlink Checker เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานด้าน SEO และเจ้าของเว็บไซต์ เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ backlink ที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณหรือของคู่แข่งได้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างมากในการพัฒนากลยุทธ์ SEO

 

ความสำคัญของการเช็ก Backlink อย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้

 

  1. ติดตามประสิทธิภาพของกลยุทธ์ลิงก์ คุณสามารถดูได้ว่ากลยุทธ์การสร้าง backlink ที่คุณใช้อยู่นั้นได้ผลหรือไม่ มีจำนวน backlink เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายหรือเปล่า
  2. ตรวจสอบคุณภาพของลิงก์ ช่วยให้คุณสามารถประเมินคุณภาพของ backlink ที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ โดยดูจากค่า Domain Authority (DA), Page Authority (PA) หรือ Domain Rating (DR) ของเว็บไซต์ต้นทาง
  3. ค้นพบลิงก์ที่เป็นอันตราย ช่วยให้คุณสามารถระบุ backlink ที่มีคุณภาพต่ำหรือเป็นอันตราย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์คุณได้
  4. วิเคราะห์คู่แข่ง ช่วยให้คุณสามารถศึกษาโปรไฟล์ backlink ของคู่แข่ง เพื่อค้นพบโอกาสใหม่ๆ ในการสร้าง backlink ที่มีคุณภาพ
  5. ประเมินผลกระทบจากอัลกอริทึมใหม่ เมื่อ Google อัปเดตอัลกอริทึม การเช็ก backlink จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

 

รวมเครื่องมือเช็ก Backlink ที่นัก SEO นิยมใช้กัน

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันออนไลน์เข้มข้น การรู้ที่มาและคุณภาพของ Backlink มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการทำ SEO การมีเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณวิเคราะห์โปรไฟล์ Backlink ของตัวเองและคู่แข่ง เพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีเครื่องมือใดบ้างที่นักการตลาดดิจิทัลนิยมใช้กัน

 

เครื่องมือแบบฟรี

  1. Google Search Console เครื่องมือฟรีจาก Google ที่แสดงข้อมูล backlink ที่ Google พบและมีผลต่อเว็บไซต์คุณ
  2. Ahrefs Backlink Checker (ฟรีแบบจำกัด) ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับโปรไฟล์ backlink โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกแบบเต็ม
  3. Moz Link Explorer (ฟรีแบบจำกัด) อนุญาตให้ทำการค้นหาได้จำนวนหนึ่งต่อเดือนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Bing Webmaster Tools – คล้าย Google Search Console แต่แสดงข้อมูล backlink จากมุมมองของ Bing

 

เครื่องมือแบบเสียค่าใช้จ่าย

  1. Ahrefs หนึ่งในเครื่องมือที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับการวิเคราะห์ backlink มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่และอัปเดตบ่อย
  2. SEMrush ให้การวิเคราะห์ backlink ที่ครอบคลุมพร้อมด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ anchor text และคุณภาพของ backlink
  3. Majestic โดดเด่นด้วยดัชนี Trust Flow และ Citation Flow ที่ช่วยประเมินคุณภาพของ backlink
  4. Moz Pro ให้การวิเคราะห์ backlink ที่ละเอียดพร้อมด้วยคะแนน Domain Authority และ Page Authority
  5. SE Ranking มีเครื่องมือติดตาม backlink ที่ช่วยให้คุณติดตามการเปลี่ยนแปลงในโปรไฟล์ backlink ของคุณ
  6. LinkResearchTools มีฟังก์ชันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการวิเคราะห์ backlink เชิงลึก

 

วิธีสร้าง Backlink ยังไงให้ได้คุณภาพ?

การสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเสมอสำหรับการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ของคุณ มีหลายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้าง Backlink ซึ่งเราจะมาดูกันในรายละเอียดต่อไปนี้

 

เขียน Content ที่มีคุณภาพ

การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงถือเป็นหัวใจสำคัญของการได้มาซึ่ง Backlink โดยธรรมชาติ เมื่อคุณผลิตบทความที่มีข้อมูลเชิงลึก ให้คุณค่า และแก้ปัญหาจริงให้กับผู้อ่าน เว็บไซต์อื่นๆ จะมีแนวโน้มที่จะลิงก์มายังเนื้อหาของคุณโดยไม่ต้องร้องขอ การสร้าง Content ในรูปแบบบทความแบบ Ultimate Guide, Case Study, งานวิจัยที่มีข้อมูลเชิงลึก หรือเนื้อหาที่มีข้อมูลเฉพาะที่ไม่มีใครเคยนำเสนอมาก่อน มักจะได้รับการแชร์และอ้างอิงอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ การอัปเดตเนื้อหาเก่าให้ทันสมัยอยู่เสมอยังช่วยรักษาความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlink ใหม่ๆ อีกด้วย

 

การทำ Guest Posting

Guest Posting เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้าง Backlink คุณภาพ โดยเป็นการเขียนบทความให้กับเว็บไซต์อื่นแล้วแลกกับลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ วิธีนี้ไม่เพียงช่วยสร้าง Backlink เท่านั้น แต่ยังช่วยขยายฐานผู้อ่านและสร้างความน่าเชื่อถือในวงการของคุณอีกด้วย ควรเลือกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาของคุณ มี Domain Authority สูง และมีผู้เข้าชมจำนวนมาก ข้อสำคัญคือต้องเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของเว็บไซต์นั้นๆ อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงเขียนเพื่อให้ได้ลิงก์เท่านั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของเว็บไซต์จะช่วยเปิดโอกาสให้ได้เขียน Guest Post อีกในอนาคต

 

การโปรโมตผ่าน Social Media

แม้ว่า Backlink จากโซเชียลมีเดียอาจไม่มีผลโดยตรงต่อการจัดอันดับใน Google แต่การโปรโมทเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพได้อย่างมาก เมื่อเนื้อหาของคุณถูกแชร์บนโซเชียลมีเดีย มันจะเข้าถึงผู้คนที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงบล็อกเกอร์ นักเขียน และเจ้าของเว็บไซต์ที่อาจลิงก์มายังเนื้อหาของคุณในบทความของพวกเขา การร่วมกลุ่มและชุมชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ การตอบคำถามและแชร์ความเชี่ยวชาญ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับ Influencer ในวงการ สามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlink โดยธรรมชาติ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn, Medium หรือ Quora ยังเป็นช่องทางที่ดีในการเผยแพร่เนื้อหาและสร้างโปรไฟล์ออนไลน์ที่แข็งแกร่ง

 

สรุปเรื่อง Backlink

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางออนไลน์สูงขึ้นทุกวัน Backlink ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือในสายตา Google และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับที่ดีบนหน้าผลการค้นหา การมี Backlink ที่มีคุณภาพไม่เพียงแค่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ แต่ยังช่วยนำทราฟฟิกที่มีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ของคุณได้โดยตรง ที่ A8digital เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่พร้อมวางกลยุทธ์ Backlink ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเรา เราสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณยืนหยัดอย่างมั่นคงบนหน้าแรกของ Google ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดได้อย่างยั่งยืน คลิ๊ก ติดต่อที่นี่