ในยุคที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เราคงเคยสงสัยกันว่า URL หรือลิงก์ที่เราพิมพ์เข้าไปในเว็บเบราว์เซอร์ทุกวันนั้นคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และทำไมถึงมีรูปแบบแตกต่างกันไป บางคนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไม URL บางอันถึงขึ้นต้นด้วย http:// บางอันเป็น https:// หรือทำไมบางเว็บไซต์ถึงมี www. นำหน้า ในขณะที่บางเว็บไซต์ไม่มี วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ พร้อมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับ URL ให้ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและจัดการกับ URL ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไป นักพัฒนาเว็บไซต์ หรือนักการตลาดดิจิทัล บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง URL ได้อย่างถ่องแท้!
URL คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อการพัฒนาเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ ?
URL หรือ Uniform Resource Locator คือ ที่อยู่ที่ใช้อ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บไซต์ รูปภาพ หรือไฟล์ต่าง ๆ ซึ่ง URL จะทำหน้าที่เป็นที่อยู่หรือเส้นทางนำผู้ใช้งานเข้าสู่เนื้อหาที่ต้องการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เปรียบเสมือนแผนที่ที่บอกทางไปยังตำแหน่งที่ตั้งของข้อมูลที่เราต้องการค้นหา
ส่วนประกอบของ URL มีอะไรบ้าง และแต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไรในการทำงานของเว็บไซต์ ?
เพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานและการตั้งค่า URL ให้ถูกหลัก SEO จำเป็นต้องรู้ถึงส่วนประกอบหลัก ๆ ของ URL ดังนี้
1. Protocol (โปรโตคอล)
ส่วนนี้จะเป็นการกำหนดวิธีการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์ เช่น
http://
(HyperText Transfer Protocol) ใช้ในการรับส่งข้อมูลแบบไม่เข้ารหัสhttps://
(HyperText Transfer Protocol Secure) ใช้ในการรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย
2. Subdomain
เป็นส่วนขยายที่อยู่หน้าชื่อโดเมนหลัก เช่น www.
หรือ blog.
ซึ่งสามารถใช้เพื่อแบ่งหมวดหมู่ของข้อมูลหรือแยกส่วนของเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่าง
blog.example.com
shop.example.com
3. Domain
คือชื่อหลักของเว็บไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เปรียบเสมือนที่อยู่บ้านของเว็บไซต์เรา
ตัวอย่าง
example.com
mywebsite.com
4. Top-Level Domain (TLD)
ส่วนขยายสุดท้ายของ URL ที่บ่งบอกถึงประเภทหรือประเทศของเว็บไซต์ เช่น
.com
สำหรับการค้า.org
สำหรับองค์กร.net
สำหรับเครือข่าย.co.th
สำหรับเว็บไซต์ในประเทศไทย
5. Subdirectory
คือโฟลเดอร์ย่อยที่อยู่ภายในโดเมนหลัก ซึ่งบอกตำแหน่งของเนื้อหาหรือหน้าต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์
ตัวอย่าง
example.com/blog/
example.com/shop/products/
6. Slug
เป็นส่วนหนึ่งของ URL ที่ระบุถึงหน้าหรือเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจง มักจะใช้คำที่สื่อความหมายและเป็นมิตรกับ SEO
ตัวอย่าง
example.com/blog/seo-guide
example.com/shop/smartphone
7. Path
คือเส้นทางที่เชื่อมโยงไปยังไฟล์หรือข้อมูลที่ต้องการบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งมักจะรวมทั้ง Subdirectory และ Slug
ความสำคัญของ URL ในการใช้งานเว็บไซต์และอินเทอร์เน็ต มีอะไรบ้าง ?
-
ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย – URL ที่ถูกตั้งชื่ออย่างเหมาะสมและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน จะทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
-
เพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ – URL ที่จัดระเบียบดีและไม่มีอักขระพิเศษเกินจำเป็น จะดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ
-
ส่งผลต่อ SEO โดยตรง – URL ที่มีคำหลัก (Keyword) ชัดเจนและกระชับ จะช่วยให้การจัดอันดับใน Google ดีขึ้น
-
เพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ลิงก์ – เมื่อ URL อ่านง่ายและเข้าใจได้ทันที จะทำให้ผู้ใช้งานกล้าที่จะแชร์ลิงก์ต่อมากขึ้น
ประเภทของ URL แบ่งออกเป็นกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานอย่างไร ?
URL สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. Absolute URL (URL แบบสมบูรณ์)
URL คือที่อยู่เว็บไซต์หรือลิงก์ที่เราใช้ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต. มาดูส่วนประกอบหลักๆ ของ URL กัน
- โปรโตคอล (เช่น http:// หรือ https://) – เป็นส่วนที่บอกวิธีการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์กับเซิร์ฟเวอร์
- โดเมน (เช่น example.com) – เปรียบเสมือนที่อยู่บ้านของเว็บไซต์
- ส่วนขยาย (.com, .org, .co.th) – บอกประเภทหรือประเทศของเว็บไซต์
URL มีความสำคัญเพราะ
- ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ
- ช่วยในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น
2. Relative URL (URL แบบสัมพัทธ์)
URL คือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตที่เราใช้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ เปรียบเสมือนบ้านเลขที่ในโลกออนไลน์
ส่วนประกอบหลักๆ ของ URL มี
- โดเมน (เช่น example.com) – เปรียบเหมือนชื่อบ้านของเว็บไซต์
- ส่วนขยาย (.com, .org, .co.th) – บอกประเภทหรือประเทศของเว็บไซต์
- เส้นทาง (Path) – บอกตำแหน่งของข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง
URL มีความสำคัญเพราะ
- ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ
- ช่วยในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น
เทคนิคการตั้งชื่อ URL ให้เป็นผลดีต่อ SEO มีอะไรบ้าง ?
การตั้งชื่อ URL ให้ดีนั้นเป็นส่วนสำคัญในการทำ SEO เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายแล้ว ยังส่งผลต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาอีกด้วย มาดูเทคนิคการตั้งชื่อ URL ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ดีขึ้น
ใช้ Keyword ที่สื่อความหมายได้ชัดเจน
การใส่คำหลักที่ตรงกับเนื้อหาจะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของหน้าคืออะไร
ตั้งชื่อ URL ให้สั้น กระชับ จำง่าย
URL ที่สั้นและกระชับจะทำให้ผู้ใช้งานจำได้ง่ายและส่งผลดีต่อการแชร์
ใช้ขีดกลาง (-) แทนขีดล่าง (_)
การใช้ -
แทน _
จะทำให้ Google สามารถแยกคำออกจากกันได้ดีกว่า
ตัวอย่างการใช้ขีดที่ดี
- ถูกต้อง
example.com/seo-guide
- ผิด
example.com/seo_guide
หลีกเลี่ยงอักขระพิเศษและอักขระภาษาอื่น
การใช้อักขระพิเศษหรือภาษาอื่นใน URL จะทำให้เกิดปัญหาในการเข้าถึงและ SEO
ใช้ HTTPS แทน HTTP
การใช้ HTTPS จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
URL Redirect คืออะไร ? และมีความสำคัญอย่างไร ?
URL คือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ทำหน้าที่เหมือนเป็นที่อยู่บ้านในโลกออนไลน์ ส่วนประกอบสำคัญของ URL ประกอบด้วย
- โปรโตคอล (เช่น http:// หรือ https://) – เป็นส่วนที่บอกวิธีการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์กับเซิร์ฟเวอร์
- โดเมน (เช่น example.com) – เปรียบเสมือนชื่อบ้านของเว็บไซต์
- ส่วนขยาย (.com, .org, .co.th) – บอกประเภทหรือประเทศของเว็บไซต์
- เส้นทาง (Path) – บอกตำแหน่งของข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง
URL มีความสำคัญเพราะ
- ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ
- ช่วยในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง URL และ URI (Uniform Resource Identifier)
URL คือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตที่ใช้เข้าถึงข้อมูลต่างๆเปรียบเสมือนแผนที่ที่พาเราไปยังข้อมูลที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ หรือไฟล์ต่างๆ ส่วนประกอบหลักๆ ของ URL มีดังนี้
- โดเมน (Domain) – เช่น example.com ซึ่งเป็นชื่อเว็บไซต์หลัก
- ส่วนขยาย (TLD) – เช่น .com .org .co.th ที่บอกประเภทหรือประเทศของเว็บไซต์
- เส้นทาง (Path) – ส่วนที่ต่อจากโดเมนเพื่อบอกตำแหน่งของข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง
URL มีความสำคัญเพราะ
- ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ
- ช่วยในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น
สรุป URL คืออะไร อยากปรับปรุง SEO ทำแค่ URL พอไหม
แม้ว่า URL จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำ SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับดีขึ้นในผลการค้นหา แต่การทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเขียนเนื้อหาคุณภาพสูง การสร้างลิงก์ภายในและภายนอก การปรับแต่ง Meta Tags และการตอบสนองต่อการใช้งานมือถือ ที่ A8DIGITAL เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปรับ URL ให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานและ SEO ไปจนถึงการวางกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ คลิ๊ก ติดต่อที่นี่
URL ย่อมาจาก Uniform Resource Locator หรือแปลตรงตัวว่า “ตัวระบุทรัพยากรแบบสม่ำเสมอ” ซึ่งหมายถึง ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตที่ใช้เข้าถึงเว็บเพจ ไฟล์ หรือบริการต่างๆ โดย URL จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก เช่น โปรโตคอล (http หรือ https), ชื่อโดเมน (เช่น google.com), และ path หรือพารามิเตอร์ที่ชี้ไปยังหน้าหรือเนื้อหาเฉพาะเจาะจง
ตัวอย่าง URL ที่เราพบเห็นบ่อย เช่น https://www.google.com
, https://www.youtube.com
, https://www.facebook.com
ล้วนเป็น URL ที่ชัดเจน สื่อถึงบริการหรือเว็บไซต์นั้นๆ ได้ดี แต่ละ URL ประกอบด้วยโครงสร้างมาตรฐานที่ง่ายต่อการเข้าใจทั้งสำหรับผู้ใช้และระบบของ Search Engine
ในทุกเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Chrome, Safari, Firefox หรือ Microsoft Edge จะมีช่องแสดง URL อยู่ด้านบนสุดของหน้าต่าง เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ใดก็ตาม ช่องนี้จะแสดง URL แบบเต็ม ซึ่งสามารถคัดลอกหรือตรวจสอบได้ง่าย ทำให้ผู้ใช้ทราบว่าตนเองกำลังอยู่ในหน้าไหนของเว็บไซต์
ในบางแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ระบบจัดการเนื้อหา หรือแอปพลิเคชันต่างๆ อาจมี ปุ่ม URL เพื่อใช้ในการคัดลอกลิงก์ หรือสร้างลิงก์ใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการแชร์หรือฝังลิงก์เหล่านั้นลงในแพลตฟอร์มอื่น โดยปุ่มเหล่านี้มักจะแสดงเป็นไอคอนคลิปบอร์ดหรือข้อความ “Copy Link”
การสร้าง URL ที่เหมาะสมสำหรับ SEO ควรมีความกระชับ ชัดเจน และมีคำสำคัญ (Keyword) ที่ตรงกับเนื้อหาของหน้าเพจ เช่น ถ้าเราต้องการเขียนบทความเกี่ยวกับเทคนิคการตลาดออนไลน์ URL ที่ดีควรเป็น www.example.com/เทคนิคการตลาดออนไลน์
แทนที่จะเป็น www.example.com/article?id=1234
ซึ่งไม่มีความหมายในสายตาของทั้งผู้ใช้และ Google อีกหนึ่งข้อแนะนำคือการใช้ขีดกลาง (-) แทนการเว้นวรรค และควรหลีกเลี่ยงตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ การใส่พารามิเตอร์ซับซ้อน และตัวเลขสุ่ม เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ URL อ่านยาก ไม่เป็นมิตรต่อการค้นหา
URL คือที่อยู่ของหน้าเว็บที่มีผลต่อทั้งประสบการณ์ผู้ใช้และการจัดอันดับบน Google หากมีโครงสร้างดีและสื่อความหมายได้ชัดเจน จะช่วยให้ SEO มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น