ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชื่อของ Scale AI เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด ด้วยบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลคุณภาพสูงที่ขับเคลื่อน AI ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาโมเดล AI ระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI บริษัทนี้ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในวงการ AI
จุดเริ่มต้นจากปัญหาง่ายๆ สู่สตาร์ตอัพระดับโลก
Scale AI ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดย Alexandr Wang และ Lucy Guo สองผู้ก่อตั้งที่พบปัญหาว่าข้อมูลที่ใช้ในการฝึก AI ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอ เรื่องนี้เกิดขึ้นจากโปรเจกต์เล็กๆ ของ Alexandr ที่ต้องการตรวจสอบปริมาณนมในตู้เย็นผ่านกล้องวงจรปิด แต่พบว่าข้อมูลภาพที่ได้ไม่สามารถนำไปใช้ฝึกโมเดลได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิดธุรกิจที่เน้นการจัดการและ annotation ข้อมูล AI คุณภาพสูงในชื่อ Scale AI
Alexandr Wang เป็นเด็กอัจฉริยะจากเมือง Los Alamos ที่มีพื้นฐานครอบครัวทำงานในห้องปฏิบัติการนิวเคลียร์ เขาเคยเข้าแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ และตัดสินใจลาออกจาก MIT เพื่อก่อตั้งบริษัท ขณะที่ Lucy Guo นักออกแบบด้านเทคโนโลยีจาก Carnegie Mellon ได้รับการยอมรับในด้านความสามารถด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ทั้งคู่ได้รับเงินลงทุนเบื้องต้นจาก Y Combinator มูลค่า 120,000 ดอลลาร์ และนั่นคือก้าวแรกสู่บริษัท AI ที่ทรงอิทธิพลระดับโลก
เทคโนโลยีหลักที่สร้างความสำเร็จ
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Scale AI ประสบความสำเร็จคือเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลที่ชื่อว่า Scale Data Engine ซึ่งใช้ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล ตั้งแต่ข้อมูลภาพ วิดีโอ ไปจนถึงเสียงและข้อความ ด้วยระบบ AI ร่วมกับพนักงานทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์ม Remotasks ที่กระจายงาน annotation อย่างมีประสิทธิภาพ
Scale AI ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี Reinforcement Learning from Human Feedback (RLHF) ซึ่งช่วยฝึกโมเดล Generative AI เช่น ChatGPT และ GPT-4 ทำให้โมเดลมีคุณภาพสูงขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงระบบการตรวจสอบคุณภาพข้อมูลที่ละเอียดรอบคอบ ช่วยให้ข้อมูลที่นำไปใช้ฝึก AI มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือสูง
การเติบโตอย่างก้าวกระโดด
Scale AI เริ่มต้นจากการให้บริการ Label ข้อมูลสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ และขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วไปยังภาคส่วนอื่น เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์ ดาวเทียม การค้าปลีก และภาครัฐ ทำให้มีลูกค้ารายสำคัญอย่าง Toyota, General Motors, Etsy, Pinterest และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (US DoD)
ความสำเร็จที่โดดเด่นอีกประการคือการร่วมมือกับ OpenAI ในการฝึกโมเดล GPT-3 และ GPT-4 ที่กลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกของการสื่อสารและการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการ Generative AI ซึ่งทำให้ Scale AI ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดการข้อมูลระดับโลก
การลงทุนและมูลค่าบริษัท
Scale AI เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการระดมทุนหลายรอบ จนมีมูลค่าพุ่งขึ้นสูงถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 และล่าสุดในปี 2025 มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ หลังจากการลงทุนครั้งใหญ่ของ Meta Platforms ที่เข้าซื้อหุ้นกว่า 49% ด้วยเงินลงทุนถึง 14.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดีลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการ AI และสะท้อนถึงศักยภาพอันมหาศาลของบริษัทนี้
แต่การลงทุนครั้งนี้ก็นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างองค์กร เมื่อ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI ตัดสินใจเข้าร่วมทีมพัฒนา Superintelligence ของ Meta ซึ่งส่งผลให้บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความเป็นกลางและความสัมพันธ์กับลูกค้ารายใหญ่อื่นๆ อย่าง Google และ Microsoft
ผลกระทบต่อแรงงานทั่วโลก
หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตามองของ Scale AI คือการใช้แรงงานผ่านแพลตฟอร์ม Remotasks ที่มีผู้ทำงานอยู่ทั่วโลก ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อและสถาบันวิจัยเกี่ยวกับค่าตอบแทนที่อาจไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม Scale AI ได้ดำเนินการปรับปรุงโดยเพิ่มความโปร่งใสในการจ่ายเงิน และมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานผ่านการให้ความรู้และอบรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้งานจริงและกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
Scale AI มีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัทได้ช่วย Label ข้อมูลภาพสำหรับฝึกโมเดลรถไร้คนขับให้กับ Toyota และ GM ซึ่งช่วยลดเวลาการพัฒนาโมเดลจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์
ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัทอย่าง Etsy และ Pinterest ใช้ข้อมูลของ Scale AI ในการพัฒนาระบบค้นหาและแนะนำสินค้า ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ภาครัฐและการทหารใช้บริการ Scale AI เพื่อพัฒนาระบบ AI ด้านความปลอดภัย เช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมในพื้นที่ขัดแย้ง เช่น สงครามในยูเครน ทำให้สามารถระบุความเสียหายและวางแผนช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
อนาคตของ Scale AI
ทิศทางอนาคตของ Scale AI คือการก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนา AI เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขา Generative AI และ Artificial General Intelligence (AGI) ผ่านความร่วมมือกับ Meta และการลงทุนใน SEAL Leaderboards ที่ช่วยวัดคุณภาพและ alignment ของโมเดล AI ที่กำลังจะมาเปลี่ยนโลกในอนาคต