Off Page SEO คืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำ SEO ในปี 2025

Off-Page SEO คืออะไร

 

ในยุคที่ Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้มากขึ้น การจัดอันดับเว็บไซต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เนื้อหาที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น การทำ On-Page SEO ที่ต้องตอบโจทย์ผู้ใช้ ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ต้องรวดเร็วและใช้งานง่าย โครงสร้างเว็บที่เป็นมิตรกับ Google Bot และที่สำคัญคือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในโลกออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Domain Authority

 

 

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ การทำ Off-page SEO คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ มาดูกันว่าเทคนิคนี้จะช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณก้าวขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของ Google ได้อย่างไร

 

 

การทำ Off-Page SEO คืออะไร?

Off-page SEO เป็นมากกว่าแค่การทำ SEO นอกเว็บไซต์ แต่คือศิลปะของการสร้างความน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล ในยุคที่ผู้คนใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมงต่อวันบนโลกออนไลน์ การสร้างตัวตนของแบรนด์ผ่านช่องทางต่างๆ จึงสำคัญมาก ลองนึกภาพว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นร้านค้าที่เพิ่งเปิดในย่านธุรกิจ การที่มีคนพูดถึงร้านคุณในโซเชียล มีบล็อกเกอร์มารีวิว หรือมีสื่อออนไลน์มานำเสนอข่าว ก็เหมือนกับการที่ร้านคุณได้รับการการันตีจากคนในแวดวง นี่คือหัวใจของ Off-page SEO

 

 

การทำ Off-page SEO ครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การสร้าง Backlinks คุณภาพ การสร้างการรับรู้แบรนด์บนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการทำ Content Marketing ที่กระตุ้นให้เกิดการแชร์และพูดถึง ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อ Trust Signals ที่ Google ใช้จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ

 

 

 

ทำไม Off-page SEO จึงมีบทบาทสำคัญ และจะเลี่ยงการทำได้หรือไม่?

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำ Off page SEO คือปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม แม้ว่า Google จะพัฒนาอัลกอริทึมให้ฉลาดขึ้น แต่การสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับในวงกว้างยังคงเป็นสิ่งที่ Google ให้น้ำหนักในการจัดอันดับ เปรียบเสมือนร้านอาหารสองร้านที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน ร้านที่มีคนพูดถึงมากกว่า มีรีวิวจากบล็อกเกอร์ชื่อดัง และได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ย่อมได้รับความเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า

 

 

ในยุคที่ผู้คนใช้ Social Proof ในการตัดสินใจ การได้รับ Backlinks คุณภาพ การถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย และการมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนออนไลน์ ล้วนสำคัญต่อการจัดอันดับใน Google ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่มีบทความถูกแชร์ในเว็บวิศวกรรมชั้นนำ มีผู้เชี่ยวชาญอ้างอิงถึง และมีการพูดถึงในเวทีอุตสาหกรรม ย่อมได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเว็บไซต์ที่มีแค่การทำ On-page SEO ที่ดี

 

 

 

ความแตกต่างระหว่าง On-Page SEO กับ Off-Page SEO

On-Page SEO เปรียบเสมือนการตกแต่งบ้านให้สวยงามและน่าอยู่ คุณต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดภายใน ตั้งแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ (การจัดรูปแบบเนื้อหา) ไปจนถึงการติดป้ายบ้านเลขที่ให้ชัดเจน (Title tag และ Meta description) การเลือกใช้คำที่ลูกค้าค้นหา (Keywords) และการจัดระเบียบทางเดินภายในบ้าน (Internal Link) ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทั้งผู้เยี่ยมชมและ Google เข้าใจบ้านของคุณได้ดียิ่งขึ้น

 

 

ส่วน Off-Page SEO คือการสร้างชื่อเสียงให้บ้านของคุณในชุมชนออนไลน์ เหมือนการที่มีคนมาแนะนำบ้านคุณ (Backlinks) หรือการที่ชื่อบ้านคุณถูกพูดถึงในงานสังคมต่างๆ (Brand Mentions) ซึ่งในยุคที่ผู้คนเชื่อถือรีวิวและคำแนะนำจากคนอื่น การสร้างความน่าเชื่อถือแบบนี้มีความสำคัญมาก

 

 

 

Off-Page SEO มีประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร ?

การทำ Off-Page SEO มีความซับซ้อนและต้องใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบ ในยุคที่ Google ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ การสร้าง Backlinks ต้องมาจากแหล่งที่เกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับการสร้างคอนเนคชั่นในโลกธุรกิจ ที่คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ การเชื่อมโยงที่ไม่เหมาะสม เช่น เว็บขายรถยนต์ไปขอลิงก์จากบล็อกทำอาหาร อาจส่งผลเสียจนถูก Google ลงโทษได้

 

 

กุญแจสำคัญของ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพคือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เมื่อเนื้อหามีประโยชน์ การได้ Backlinks คุณภาพจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ Google ประเมินคุณภาพเว็บไซต์จากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมผู้ใช้และการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ดังนั้น การทำ SEO ที่ดีจึงต้องวางกลยุทธ์แบบครบวงจร

 

 

 

วิธีการทำ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลในปี 2025

การทำ Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางกลยุทธ์อย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่การสร้าง Backlinks แต่ต้องผสมผสานหลายเทคนิคเข้าด้วยกัน ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ การทำ Content Marketing ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และการใช้สื่อมัลติมีเดียอย่างวิดีโอและ Podcasts เพื่อเข้าถึงผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีรายละเอียดและข้อควรระวังอย่างไรบ้าง

 

 

 

1. การสร้าง Backlink และกลยุทธ์การเชื่อมโยงเว็บไซต์ (Link Building) อย่างมีประสิทธิภาพ

Link Building เป็นหัวใจสำคัญของ SEO Off-Page โดยเฉพาะในยุคที่เนื้อหาสร้างได้ง่ายด้วย AI คุณภาพของ Backlink จึงสำคัญกว่าปริมาณ เปรียบเสมือนการได้รับการแนะนำตัวจากผู้มีอิทธิพลในวงการ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าการถูกพูดถึงโดยบัญชีปลอมนับร้อย ดังนั้น การสร้าง Backlink ต้องมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้ Google เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่แท้จริง

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Backlink มีประสิทธิภาพ

 

 

 

  • Domain Authority เว็บไซต์ผู้ให้ลิงก์ต้องมีความน่าเชื่อถือในสายตา Google เหมือนการได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
  • Organic Traffic เว็บไซต์ต้องมีผู้เข้าชมจริง มีการอัปเดตสม่ำเสมอ และมีการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ ไม่ใช่เว็บที่สร้างขึ้นเพื่อขาย Backlink เพียงอย่างเดียว
  • Relevancy ตรงกลุ่มเป้าหมายลิงก์ต้องมาจากเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน เช่น เว็บขายเครื่องสำอางควรได้ Backlink จากเว็บรีวิวความงาม เว็บสอนแต่งหน้า หรือเว็บข่าวด้านแฟชั่นและความสวยความงาม เป็นต้น
 

2. การสร้างแบรนด์และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการทำ Brand Building

การสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัลมีผลต่อ SEO มากกว่าที่คุณคิด เมื่อแบรนด์เป็นที่จดจำ ผู้คนจะค้นหาชื่อแบรนด์บน Google บ่อยครั้ง ส่งผลให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมี Brand Authority สูง เปรียบเสมือนร้านค้าที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา ย่อมได้รับความเชื่อถือมากกว่าร้านที่เงียบเหงา และเมื่อแบรนด์แข็งแกร่ง คุณจะได้รับ Natural Backlinks จากการที่ผู้คนพูดถึงและแชร์เนื้อหาของคุณโดยอัตโนมัติ เหมือนการบอกต่อแบบปากต่อปากในโลกออนไลน์

 

 

3. การทำ Content Marketing เพื่อสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์

Content Marketing ไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหาเพื่อ On-Page SEO เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับ Off-Page SEO ในยุคที่ผู้คนต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีคุณค่า การสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นจึงเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดทั้ง Backlinks และการมีส่วนร่วมจากผู้อ่าน

 

 

ลองนึกภาพว่าคอนเทนต์ของคุณเป็นเหมือนร้านกาแฟที่มีกลิ่นหอมชวนให้คนเดินเข้ามา เมื่อคุณสร้างบทความที่มีคุณภาพ อินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย หรือวิดีโอที่ให้ความรู้ คอนเทนต์เหล่านี้จะถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียลโดยธรรมชาติ เกิดเป็น Viral Content ที่สร้าง Brand Awareness และ Natural Backlinks จากแหล่งที่มีคุณภาพ ซึ่งมีค่ามากกว่าการไปขอ Backlinks แบบเดิมๆ หลายเท่า

 

 

4. การทำวิดีโอและ Podcasts เพื่อการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง

ในยุคที่ผู้คนใช้เวลากับการดูวิดีโอและฟัง Podcasts มากขึ้น การสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มเหล่านี้จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็น YouTube ที่เป็นเสมือนเครื่องมือค้นหาอันดับ 2 ของโลก, TikTok ที่มีอัลกอริทึมแนะนำคอนเทนต์ที่แม่นยำ, หรือ Instagram ที่กำลังผลักดันฟีเจอร์วิดีโอ Reels อย่างหนัก

 

 

การสร้าง Visual Content ที่มีคุณภาพบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้าง Engagement แต่ยังเป็นการเพิ่ม Social Signals ให้กับแบรนด์ เมื่อผู้ชมสนใจเนื้อหาของคุณ พวกเขาจะติดตามลิงก์ในคำอธิบายวิดีโอมาที่เว็บไซต์ ส่งผลให้เกิด Referral Traffic ที่มีคุณภาพ เพราะผู้ชมเหล่านี้มีความสนใจในเนื้อหาของคุณอยู่แล้ว

 

 

5. การทำ Local SEO เพื่อปรับแต่งธุรกิจให้โดดเด่นในการค้นหาท้องถิ่น

ในยุคที่ผู้คนค้นหาธุรกิจผ่าน Google Maps การทำ Local SEO จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม จุดเริ่มต้นอยู่ที่การสร้างและปรับแต่ง Google Business Profile ให้สมบูรณ์ที่สุด เปรียบเสมือนการสร้าง “หน้าร้านดิจิทัล” ที่เปิดต้อนรับลูกค้า 24 ชั่วโมง โดยแสดงข้อมูลสำคัญทั้งที่อยู่ เบอร์โทร เวลาทำการ รูปภาพ และรีวิวจากลูกค้าจริง

 

 

การอัปเดตข้อมูลและตอบรีวิวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์โปรโมชั่น แจ้งวันหยุด หรือแชร์กิจกรรมต่างๆ เพราะ Google ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวและโต้ตอบกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและการจัดอันดับใน Local Search Results

 

 

6. การใช้ Social Media เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง

Social Media เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล ลองนึกภาพว่าทุกครั้งที่คุณเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือการเช็ค Facebook, Instagram หรือ TikTok เช่นเดียวกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 90% ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย นี่คือโอกาสทองในการสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย

 

 

แม้ว่า Social Signals จาก Facebook, Instagram หรือ X (Twitter) จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อ Rankings เพราะเป็น NoFollow Links แต่การที่คนแชร์ กดไลค์ และคอมเมนต์เนื้อหาของคุณในปริมาณมาก จะส่งสัญญาณบวกให้ Google เห็นว่าแบรนด์ของคุณมี Authority และได้รับการยอมรับในวงกว้าง ซึ่งส่งผลดีต่อ SEO ในระยะยาว เปรียบเสมือนการสร้างกองเชียร์ที่พร้อมจะสนับสนุนและบอกต่อเรื่องราวของแบรนด์คุณ

 

 

7. การทำ Influencer Marketing กับผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์

ในยุคที่ผู้คนเสพคอนเทนต์ผ่าน Social Media มากขึ้น Influencer กลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ พวกเขาไม่ใช่แค่คนดังบน Social Media แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่สร้างคอมมูนิตี้เฉพาะทาง สร้างการมีส่วนร่วม และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ติดตาม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ Brand Authority ในสายตา Google

 

 

การทำ Influencer Marketing จึงเป็นกลยุทธ์ Off-Page SEO ที่ทรงพลัง โดยเฉพาะเมื่อร่วมมือกับ Micro-Influencer ที่มีความเชี่ยวชาญตรงกับธุรกิจของคุณ เพราะการรีวิวสินค้า แชร์บทความ หรือสร้างคอนเทนต์ร่วมกัน ไม่เพียงสร้าง Organic Traffic คุณภาพสูง แต่ยังเพิ่ม Social Signals ที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในระบบนิเวศดิจิทัล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับของ Google

 

 

8. การจัด Events เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ของคุณ

ในยุคที่การจัดอีเวนต์ออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ แบรนด์ที่ฉลาดจะใช้โอกาสนี้สร้างปรากฏการณ์บนโลกดิจิทัล ลองนึกภาพการจัด Virtual Conference ที่รวมผู้เชี่ยวชาญในวงการมาแชร์ความรู้ ไม่เพียงสร้าง Brand Authority แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิด Natural Backlinks จากสื่อและพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงาน เช่น เว็บไซต์ข่าว บล็อกเกอร์ที่มารีวิว หรือ Micro-Influencers ที่แชร์ไฮไลท์งาน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งสัญญาณเชิงบวกให้ Google เห็นว่าแบรนด์ของคุณเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

 

 

9. การเขียนบทความ Guest Blogging บนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

Guest Blogging คือการนำความเชี่ยวชาญของคุณไปแบ่งปันบนเว็บไซต์ที่มี Authority สูง เปรียบเสมือนการได้รับเชิญไปพูดบนเวทีที่มีผู้ชมคุณภาพ การเลือกเว็บไซต์ที่จะร่วมงานด้วยต้องดูให้ตรงกับ Niche ของคุณ และมี Domain Rating ที่ดี เมื่อคุณสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เว็บโฮสต์มักยินดีให้คุณใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ หรือแนะนำตัวในส่วนประวัติผู้เขียน ซึ่งเป็นวิธีที่ Google มองว่าเป็นธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน

 

 

10. การทำ Forums Marketing เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

Forums Marketing ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้าง Brand Authority โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่อย่าง pantip.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ค้นหาข้อมูล และแชร์ประสบการณ์ การเข้าไปมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม แชร์ความรู้ที่มีคุณค่า พร้อมแทรก Contextual Links ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงช่วยสร้าง Referral Traffic คุณภาพสูง แต่ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมแบ่งปันความรู้ให้กับชุมชน

 

 

11. การทำ Review หน้าเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ในโลกดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้น รีวิวกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถสร้างหรือทำลายแบรนด์ได้ในพริบตา ลองนึกภาพว่าคุณกำลังจะสั่งอาหารจากร้านใหม่ สิ่งแรกที่คุณทำคือเช็ครีวิวบน Wongnai หรือ Google Maps ใช่ไหม? พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับการสั่งอาหาร แต่เกิดขึ้นกับทุกการตัดสินใจซื้อในโลกออนไลน์

 

 

สำหรับธุรกิจออนไลน์ การมีรีวิวเชิงบวกจำนวนมากไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าใหม่ แต่ยังส่งสัญญาณถึง Google ว่าแบรนด์ของคุณเป็นที่ยอมรับและควรค่าแก่การจัดอันดับที่ดี นี่คือเหตุผลที่ Google ใช้ข้อมูลจาก Google Business Profile และแพลตฟอร์มรีวิวชั้นนำเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SERP

 

 

ข้อควรระวังสำหรับ Off-Page SEO เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

การทำ Off-Page SEO ในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้าง Backlink เท่านั้น เพราะ Google ที่ฉลาดขึ้นสามารถตรวจจับการสร้าง Backlink ที่ไม่เป็นธรรมชาติได้ โดยเฉพาะการสร้าง Backlink ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น เว็บขายรองเท้าไปทำ Backlink กับเว็บอาหาร ซึ่งอาจทำให้อันดับของคุณตกลงอย่างรวดเร็ว

 

ในปี 2025 นี้ การทำ SEO Off-Page ที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มจากการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและตรงความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก แล้วจึงขยายไปสู่การสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน Backlink ที่มีคุณภาพและเป็นธรรมชาติ

 

 

สรุป

การทำ SEO ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้การแข่งขันบน Search Engine มีความท้าทายมากขึ้น ทั้ง On-Page และ Off-Page SEO จึงต้องทำอย่างมีกลยุทธ์และรอบคอบ เพราะแม้แต่ความผิดพลาดเล็กๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับการค้นหาได้ การมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จ

 

 

A8Digital เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะการทำ SEO มาอย่างยาวนาน ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจทั้งเทรนด์ดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ติดต่อเราวันนี้เพื่อยกระดับธุรกิจของคุณสู่อันดับต้นๆ ของ Google ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี และยกระดับธุรกิจออนไลน์ของคุณไปอีกขั้น! คลิ๊ก ติดต่อที่นี่

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

a8digital
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.