AI กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้ในทุกวงการ ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ไปจนถึงภาคสังคม ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ปรับปรุงคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ก็มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อมนุษย์ เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชน การแบ่งแยกทางสังคม และอคติทางเชื้อชาติ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ สหภาพยุโรปจึงมีมติออกกฎหมาย AI Act ฉบับแรกของโลก เพื่อควบคุมการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ กฎหมายฉบับนี้กำหนดหลักเกณฑ์และข้อบังคับสำหรับการใช้งาน AI แบ่ง AI ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ AI ที่ไม่สามารถยอมรับได้ (Unacceptable AI) AI ที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk AI) และ AI ที่มีความเสี่ยงต่ำ (Limited-risk AI) โดย AI ที่ไม่สามารถยอมรับได้ เช่น การใช้ AI ในการให้คะแนนบุคคล (social scoring) โดยหน่วยงานรัฐ จะถูกห้ามใช้งานในสหภาพยุโรป ส่วน AI ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การใช้ AI ในระบบการจ้างงาน หรือระบบการบังคับใช้กฎหมาย จะต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำออกสู่ตลาด
สหภาพยุโรปออกกฎหมายกำกับดูแล AI ฉบับแรกของโลก
สหภาพยุโรปก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ของโลก ภายหลังการเจรจาระหว่างรัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิกเป็นเวลานานกว่า 37 ชั่วโมง ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการออกกฎหมายควบคุม AI ฉบับแรกของโลก เรียกว่า AI Act กฎหมาย AI Act ฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากฎหมายปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก โดยกฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นที่จะควบคุมการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ของภาคธุรกิจ
ย้อนไปในปี 2021 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอร่างกฎหมาย AI Act ไว้แล้ว ว่าด้วยเรื่องการควบคุมกลุ่มเทคโนโลยี AI ที่มีความเสี่ยงสูง (high-risk AI applications) และป้องกันการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในการละเมิดค่านิยมของสหภาพยุโรปหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้มีการเจรจาเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
ในปี 2022 สภายุโรปเห็นชอบร่างกฎหมาย AI Act ดังกล่าว นำไปสู่การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงระหว่างสมาชิก และเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎหมายกำกับดูแล AI ฉบับแรกของโลก และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปลายปี 2025
AI Act มีเป้าหมายเพื่อควบคุมการใช้ AI
เพื่อให้ AI ในยุโรปให้อยู่ภายใต้กรอบความปลอดภัย เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้คน สนับสนุนประชาธิปไตย และส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ควบคู่กันไปด้วย สำหรับหลักเกณฑ์ความเสี่ยงและผลกระทบสำหรับ AI Act โดยใช้ โดยแบ่ง AI ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- AI ที่ไม่สามารถยอมรับได้ (Unacceptable AI) ห้ามใช้งานในสหภาพยุโรป เช่น การใช้ AI ในการให้คะแนนบุคคล (social scoring) โดยหน่วยงานรัฐ
- AI ที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk AI) ผู้ให้บริการจะต้องนำระบบ AI ขึ้นทะเบียนและเข้ารับการตรวจสอบรับรองก่อนนำออกสู่ตลาด เช่น เครื่องจักร ของเล่น อุปกรณ์วิทยุ
- AI ที่มีความเสี่ยงต่ำ (Limited-risk AI) หรือไม่มีความเสี่ยง (No-risk AI) สามารถใช้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข เช่น แอปพลิเคชันมือถือ วีดีโอเกม ระบบกรองสแปม
สำหรับมาตรการที่ส่งเสริมธุรกิจในการพัฒนา AI นั้น กฎหมาย AI Act ได้จัดให้มีมาตรการสำคัญ 2 ประการ ได้แก่
- Regulatory Sandboxes เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่อนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม (SME) พัฒนาและทดลองใช้เทคโนโลยี AI เชิงนวัตกรรม ก่อนที่จะวางตลาดอย่างเป็นทางการ
- Real-World-Testing เป็นโครงการทดสอบเทคโนโลยี AI เชิงนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้ธุรกิจสามารถประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเทคโนโลยี AI ก่อนที่จะนำออกสู่ตลาด
AI Act กฎหมายปัญญาประดิษฐ์ฉบับแรกของโลก ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากฎหมายปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก โดยกฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นที่จะควบคุมการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ของภาคธุรกิจ