เจาะลึกกลยุทธ์การตลาดสุดปัง ของ Netflix สร้างปรากฏการณ์ไวรัลติดลมบน

เจาะลึกกลยุทธ์การตลาดสุดปัง ของ Netflix สร้างปรากฏการณ์ไวรัลติดลมบน

เจาะลึกกลยุทธ์การตลาดสุดปัง ของ Netflix สร้างปรากฏการณ์ไวรัลติดลมบน

จากร้านเช่าวิดีโอเล็ก ๆ สู่ผู้นำด้านสตรีมมิ่งระดับโลก Netflix ไม่ได้เติบโตเพียงเพราะปรับตัวตามยุคสมัย แต่ยังมีกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมและเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นแบรนด์ที่สร้างกระแสไวรัลได้อยู่เสมอ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก 6 กลยุทธ์การตลาดสุดปังของ Netflix ที่ทำให้พวกเขาโดนใจผู้ชมทั่วโลก

1. เนื้อหาที่ส่งตรงถึงใจคุณ

Netflix ไม่ได้มีเพียงคลังหนังและซีรีส์มากมาย แต่ยังมีระบบแนะนำคอนเทนต์ที่แม่นยำ อย่าง Today’s Pick up for you หรือ We think you will love these ที่คัดสรรมาให้ตรงตามความสนใจของแต่ละคน พร้อมบอกเปอร์เซ็นต์ความตรงใจ เพื่อให้คุณได้พบกับคอนเทนต์ที่ใช่ ไม่ต้องเสียเวลาค้นหา

  • ระบบจะจดจำประวัติการรับชมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นแนวหนังที่ชอบดู นักแสดงที่ชื่นชอบ หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่คุณมักจะดู Netflix แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ เพื่อแนะนำคอนเทนต์ที่คุณน่าจะชอบ
  • ตัวอย่างเช่น หากคุณชอบดูหนังแอคชั่น Netflix อาจจะแนะนำหนังแอคชั่นเรื่องใหม่ หรือซีรีส์ที่มีนักแสดงที่คุณเคยดูผลงานมาก่อน
  • นอกจากนี้ Netflix ยังมีฟีเจอร์ให้คุณสามารถให้คะแนนคอนเทนต์ที่รับชม เพื่อช่วยให้ระบบเรียนรู้ความชอบของคุณได้ดียิ่งขึ้น

2. เนื้อหาพิเศษที่หาที่อื่นไม่ได้

Netflix Original คือคอนเทนต์ที่ผลิตโดย Netflix เอง ทั้งหนัง ซีรีส์ และสารคดีคุณภาพสูง ที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากที่อื่น สร้างความคุ้มค่าให้กับสมาชิก และเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมทั่วโลก

  • Netflix ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการสร้างคอนเทนต์ Original ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกแนว ตั้งแต่หนังฟอร์มยักษ์ ซีรีส์สุดฮิต ไปจนถึงสารคดีที่น่าสนใจ
  • ตัวอย่างเช่น ซีรีส์ Stranger Things, The Crown, Squid Game หรือหนังอย่าง The Irishman, Bird Box, Red Notice ล้วนเป็นคอนเทนต์ Original ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก
  • การมีคอนเทนต์ Original ที่โดดเด่น ทำให้ Netflix แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้คนเลือกสมัครสมาชิก

3. ฉลาดเลือกใช้สื่อ สื่อสารโดนใจคนยุคใหม่

Netflix รู้จักเลือกใช้สื่อที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญโฆษณาสุดครีเอทีฟบนโซเชียลมีเดีย หรือ Ambient media ที่แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวัน อย่างแคมเปญ Doctor Climax ที่ใช้ห้องน้ำเป็นสื่อโฆษณาสุดแซ่บ

  • Netflix ใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่การโพสต์ตัวอย่างหนังหรือซีรีส์ แต่ยังสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนานและมีส่วนร่วมกับผู้ชม
  • นอกจากนี้ Netflix ยังใช้ Ambient media หรือสื่อโฆษณาที่อยู่รอบตัวเรา อย่างป้ายโฆษณา รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ห้องน้ำ เพื่อสร้างความประทับใจและทำให้ผู้คนพูดถึง
  • การเลือกใช้สื่อที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ทำให้ Netflix สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกกลุ่ม และสร้างกระแสไวรัลได้อย่างต่อเนื่อง

4. วางแผนการตลาดแบบไม่เหมือนใคร

Netflix ใช้ Social listening tools เพื่อเข้าใจปัญหาของผู้ชม และนำมาพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น อย่าง “Netflix Socks” ถุงเท้าอัจฉริยะที่หยุดหนังให้เมื่อผู้ชมเผลอหลับ เป็นไอเดียสุดบรรเจิดที่คว้ารางวัล Shorty awards มาครอง

  • Netflix ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างคอนเทนต์ที่ดี แต่ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดของประสบการณ์การรับชม
  • พวกเขาใช้ Social listening tools เพื่อติดตามความคิดเห็นและปัญหาของผู้ชมบนโซเชียลมีเดีย แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาบริการและสร้างแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์
  • ไอเดีย “Netflix Socks” เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ Netflix เข้าใจถึงปัญหาของผู้ชม (การเผลอหลับขณะดูหนัง) และนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหานั้นได้อย่างสร้างสรรค์

5. คอนเทนต์โดนใจ ใครเห็นก็เก็ต

Netflix สร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงง่าย ใช้ภาษาและอารมณ์ขันที่ตรงใจคนไทย พร้อมเกาะติดทุกกระแสและเหตุการณ์ เพื่อให้แบรนด์อยู่ในความสนใจของผู้ชมตลอดเวลา

  • ทีมคอนเทนต์ของ Netflix เข้าใจวัฒนธรรมและภาษาของคนไทยเป็นอย่างดี พวกเขาสร้างคอนเทนต์ที่ใช้ภาษาและมุกตลกที่คนไทยเข้าใจได้ง่าย
  • นอกจากนี้ Netflix ยังเกาะติดทุกกระแสและเหตุการณ์สำคัญ แล้วนำมาสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แบรนด์อยู่ในกระแสตลอดเวลา
  • ตัวอย่างเช่น การโพสต์ภาพหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่างๆ หรือเหตุการณ์สำคัญในประเทศไทย

6. ร่วมมือกับแบรนด์ดัง สร้างประสบการณ์ใหม่

Netflix จับมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญสุดพิเศษ อย่างการร่วมมือกับโรซ่า ผลิตซอสผัดงอแงจากหนังเรื่อง HUNGER มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้ชม

  • Netflix ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่การสร้างคอนเทนต์ แต่ยังมองหาโอกาสในการร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ชม
  • การร่วมมือกับโรซ่า เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ Netflix นำคอนเทนต์ (หนังเรื่อง HUNGER) มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ (ซอสผัดงอแง) ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าการดูหนัง
  • การร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ ยังช่วยให้ Netflix ขยายฐานผู้ชม และสร้างความตื่นเต้นให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้ Netflix ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พวกเขาไม่เพียงแค่ปรับตัวตามยุคสมัย แต่ยังเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และกล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ นี่คือบทเรียนสำคัญที่นักการตลาดทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อสร้างแบรนด์ที่โดนใจและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล